
เพจข้อมูลด้านสุขภาพ Tensia เผยว่า นักวิจัยพบเกล็ดเลือดเป็นพาหะ ขนส่งฝุ่นPM2.5 จากปอดไปทั่วร่างกาย โดยระบุว่า
นักวิจัยค้นพบ เกล็ดเลือดอาจเป็นตัวการที่ทำให้ PM2.5 เดินทางจากปอดไปทั่วร่างกาย ซึ่งอธิบายว่าทำไม PM2.5 ถึงมีผลทั่วร่างกาย ทั้งๆ ที่ควรจะอยู่ถุงลมเป็นหลัก
ฝุ่นละอองจะเข้าไปในทางเดินหายใจลึกขนาดไหน ขึ้นกับขนาด ซึ่งขนาด PM2.5 สามารถเข้าไปได้ลึกถึงถุงลม และถูกจับกินโดยเม็ดเลือดขาวที่ถุงลม
แต่ผลกระทบของ PM2.5 กลับไม่ได้เจอแค่ที่ปอด แต่เจอทั่วร่างกายตั้งแต่หัวใจ หลอดเลือด สมอง ฯลฯ
คำถามคือมันไปส่งผลได้ไง?
แนวคิดเดิมคือ เม็ดเลือดขาวที่ถุงลมนี่แหละ ที่จับกิน PM จะปลดปล่อยสารก่ออักเสบและสารอนุมูลอิสระเข้าสู่กระแสเลือด แล้วไปมีผลต่ออวัยวะต่างๆ เอง
แต่งานวิจัยนี้ นักวิจัยค้นพบจากการศึกษาในหนูว่า เกล็ดเลือดที่สร้างจากปอดมีการขนส่งตัว PM นี่แหละ เดินทางไปสู่อวัยวะอื่นๆ ได้
แต่เดี๋ยวนะ เกล็ดเลือดสร้างจากปอดได้เหรอ?
ใช่ค่ะ เป็นการค้นพบเมื่อประมาณ 10-15 ปีที่แล้วว่า เกล็ดเลือดไม่ได้สร้างจากไขกระดูกอย่างเดียว แต่กว่า 50% เซลล์แม่ของเกล็ดเลือด (ชื่อ Megakaryocyte) จะสลัดเศษเกล็ดเลือดครั้งแรก แล้วมาสลัดต่อที่ปอด หรือไม่ก็เซลล์แม่เองก็เดินทางจากไขกระดูกมาที่ปอดเลย
ดังนั้นปัจจุบันเป็นที่ยอมรับกันกว้างขวางแล้วว่า ปอดเป็นหนึ่งในอวัยวะที่ผลิตเกล็ดเลือดในขั้นตอนสุดท้ายได้เยอะมากค่ะ
และการที่มีเซลล์แม่ของเกล็ดเลือด เดินทางมาถึงที่ปอดนี่แหละค่ะ คือปัญหา

สรุปข่าว
นักวิจัยพบว่า เซลล์ Megakaryocyte ที่พบที่ปอดนี้ สามารถที่จะจับกิน PM เข้าไปในตัวได้ ทันทีที่จับกิน มันก็จะปล่อยสารก่ออักเสบออก ร่วมกับเร่งกระบวนการสร้างเกล็ดเลือดของตัวเอง
พอเซลล์แม่นี้โตเต็มวัย พร้อมจะสลัดร่างกายออกมาให้เป็นเศษเกล็ดเลือดแล้ว มันก็จะเขยิบมาที่หลอดเลือดฝอยที่ปอด แล้วยื่นชิ้นส่วนตัวเองออก แล้วให้เลือดถูจนหลุดออกมาเป็นเกล็ดเลือด
ปัญหาคือ! ถ้าเซลล์แม่ตัวนั้น กิน PM เข้าไปแล้ว ก็จะถ่ายทอดโมเลกุล PM นี้ให้เกล็ดเลือดไปด้วยค่ะ
นักวิจัยยังได้ค้นพบอีกว่า เกล็ดเลือดที่มี PM อยู่ มีฤทธิ์สร้างลิ่มเลือดได้ดีขึ้นกว่าเกล็ดเลือดทั่วไป (ตรงนี้น่าจะอธิบายได้ว่าทำไม PM2.5 ถึงทำให้โรคหัวใจขาดเลือดรุนแรง) และเมื่อติดตามเกล็ดเลือดพวกนี้ไปพบว่า มันไปทั่วร่างกายเลยค่ะ
ทำให้ตอนนี้ เกล็ดเลือดกลายเป็น “พาหะ” ในการขนส่ง PM ไปให้อวัยวะอื่นแทน เหมือนเป็นการแจกจ่ายความหายนะไม่ให้จบที่ปอดอย่างเดียว เหอะๆ
ที่มาข้อมูล : Facebook : Tensia
ที่มารูปภาพ : canva

Juthaluck Kae
(Juthaluck Kae)