สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส ยูเครน ตกลงร่วมจดทำแผนหยุดยิงรัสเซีย-ยูเครน

เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร กล่าวว่า  สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และยูเครนได้ตกลงร่วมกันจัดทำแผนหยุดยิงเพื่อเสนอต่อสหรัฐอเมริกา โดยมีการประชุมสุดยอดของผู้นำยุโรปในวันนี้ (2 มี.ค.)

สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส ยูเครน ตกลงร่วมจดทำแผนหยุดยิงรัสเซีย-ยูเครน

สรุปข่าว

สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และยูเครนตกลงร่วมกันจัดทำแผนหยุดยิงสำหรับปฏิบัติการทางทหารรัสเซียในยูเครน โดยสตาร์เมอร์กล่าวว่า เขามุ่งมั่นที่จะเป็นสะพานในการฟื้นฟูการเจรจาสันติภาพและใช้ความล้มเหลวในการเจรจาเป็นโอกาสในการหันกลับไปมีปฏิสัมพันธ์กับทรัมป์ เซเลนสกี และประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส

การประชุมสุดยอดครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดจากการตำหนิของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ต่อประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครนในทำเนียบขาว หลังจากที่เขากล่าวหาว่าเซเลนสกีไม่ซาบซึ้งในความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ ในการต่อสู้กับการบุกรุกของรัสเซียในยูเครน

อย่างไรก็ตาม สตาร์เมอร์กล่าวว่า เขามุ่งมั่นที่จะเป็นสะพานในการฟื้นฟูการเจรจาสันติภาพและใช้ความล้มเหลวในการเจรจาเป็นโอกาสในการหันกลับไปมีปฏิสัมพันธ์กับทรัมป์ เซเลนสกี และประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส แทนที่จะเพิ่มคำพูดที่รุนแรง โดยจะทำงานกับยูเครนเพื่อจัดทำแผนหยุดยิง จากนั้นเราจะหารือแผนดังกล่าวกับสหรัฐฯ

การประชุมสุดยอดในวันนี้มีความสำคัญต่อการปกป้องพันธมิตรที่ได้รับผลกระทบจากสงครามและเสริมสร้างการป้องกันของทวีปยุโรป

การประชุมในกรุงลอนดอนครั้งนี้อาจรวมถึงการหารือเกี่ยวกับการจัดตั้งกองกำลังทหารยุโรปที่จะส่งไปยังยูเครนเพื่อสนับสนุนการหยุดยิง โดยสตาร์เมอร์กล่าวว่า มันจะเกี่ยวข้องกับพันธมิตรที่พร้อมจะร่วมมือ

สตาร์เมอร์กล่าวว่า เขาไม่เชื่อใจประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แต่เชื่อมั่นในทรัมป์

การประชุมสุดยอดนี้ยังจะมีผู้นำจากฝรั่งเศส เยอรมนี เดนมาร์ก อิตาลี เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ โปแลนด์ สเปน แคนาดา ฟินแลนด์ สวีเดน สาธารณรัฐเช็ก และโรมาเนีย รวมถึงรัฐมนตรีต่างประเทศตุรกี เลขาธิการนาโต และประธานคณะกรรมาธิการยุโรปและสภายุโรปเข้าร่วมด้วย

หลังจากเหตุการณ์ในทำเนียบขาว เซเลนสกีได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวางจากผู้นำยุโรป ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ธรรมดาเนื่องจากการโจมตีพันธมิตร และการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ โดยสตาร์เมอร์บอกว่า จะยืนเคียงข้างเซเลนสกีและยูเครน ตราบใดที่มันอาจต้องใช้เวลา

ยุโรปได้แสดงความวิตกกังวลตั้งแต่ทรัมป์เริ่มการเจรจาสันติภาพโดยตรงกับปูติน ซึ่งถูกแยกตัวออกจากผู้นำชาติตะวันตกส่วนใหญ่ตั้งแต่การรุกรานยูเครนเมื่อสามปีก่อน การต่อสู้เพื่อรักษาความเกี่ยวข้องและปกป้องผลประโยชน์ของยุโรปท่ามกลางที่ดูเหมือนว่าพันธมิตรที่เคยแข็งแกร่งกำลังโน้มตัวไปหาเพื่อนกับปูตินนั้นยิ่งน่ากังวลมากขึ้นเมื่อทรัมป์เรียกเซเลนสกีว่าเผด็จการ และกล่าวเท็จว่าเป็นยูเครนที่เริ่มสงคราม

นอกจากนี้ สตาร์เมอร์ได้ให้คำมั่นว่าจะเพิ่มการใช้จ่ายทางทหารให้ถึง 2.5% ของผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ภายในปี 2027 โดยประเทศยุโรปอื่น ๆ อาจปฏิบัติตาม

พีทร์ ฟิอาลา นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐเช็กกล่าวเมื่อวันเสาร์ (1 มี.ค.) ว่า ยุโรปกำลังเผชิญกับการทดสอบทางประวัติศาสตร์และต้องดูแลตัวเอง ประเทศในยุโรปต้องเพิ่มการใช้จ่ายด้านอาวุธให้ถึง 3% ของ GDP เป็นอย่างน้อย หากไม่เพิ่มความพยายามให้เร็วพอและปล่อยให้ผู้รุกรานเป็นฝ่ายกำหนดเงื่อนไข เราจะไม่จบลงด้วยดี

ด้านประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส กล่าวว่า เขาคิดว่าเป็นเรื่องถูกต้องที่สหรัฐฯ จะหันไปมุ่งเน้นที่การรับมือกับจีนและเอเชีย และเรียกร้องให้เพิ่มการใช้จ่ายด้านการป้องกัน ในขณะเดียวกันก็เรียกร้องให้มีความสามัคคีในหมู่เพื่อนบ้าน โดยต้องการยุโรปที่มีอำนาจอธิปไตยมากขึ้น มีความสามัคคีมากขึ้น และเป็นอิสระมากขึ้น

ที่มาข้อมูล : AP

ที่มารูปภาพ : AP

avatar

พิชญาภา สูตะบุตร