ผู้เชี่ยวชาญสงสัย ทรัมป์ปะทะเซเลนสกีอาจเป็นการแสดง

การพูดคุยกันระหว่าง โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และเซเลนสกี ในตอนแรก ก็ดูเหมือนเป็นการพูดคุยกันตามปกติ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปค่อนข้างดี มีรอยยิ้ม แต่จู่ ๆ การสนทนาก็เปลี่ยนเป็นการใช้อารมณ์ ซึ่งทรัมป์ได้กล่าวโทษเซเลนสกีว่าไม่อยู่ในจุดที่จะต่อรองอะไรได้ และพยายามสั่งสอนเซเลนสกีว่าทำผิดพลาดอะไรบ้างที่ทำสงครามกับรัสเซีย โดยที่ไม่มีทางชนะเลย และถ้าไม่ได้รับความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ ประเทศยูเครนก็คงย่อยยับไปแล้ว

 

หากเราดูให้ดีจะเห็นกว่าปะทะกันนั้น เริ่มต้นจากการที่ เจดี แวนซ์ รองประธานาธิบดี เริ่มพูดแทรกเข้ามาว่าเซเลนสกี ไม่ให้เกียรติรัฐบาลสหรัฐฯ ที่พยายามช่วยเหลือยูเครนมาตลอด ซึ่งเซเลนสกีก็ตอบโต้กลับด้วยการบอกว่าสหรัฐฯ คิดว่าสงครามเป็นเรื่องไกลตัว เพราะมีมหาสมุทรกั้นอยู่ ซึ่งก็ทำให้ทรัมป์กระโดดเข้ามาร่วมวงโต้เถียงด้วย โดยบอกว่าเซเลนสกีไม่อยู่ในจุดที่จะมาต่อรองอะไรได้ทั้งนั้น และอารมณ์การสนทนาก็เปลี่ยนไปในทันที จนคนดูตั้งตัวแทบไม่ทัน 

ผู้เชี่ยวชาญสงสัย ทรัมป์ปะทะเซเลนสกีอาจเป็นการแสดง

สรุปข่าว

ผู้เชี่ยวชาญตั้งข้อสงสัยว่าการปะทะกันอย่างดุเดือดระหว่างเซเลนสกีกับทรัมป์ที่ทำเนียบขาว อาจจะเป็นการแสดงเพื่อตอกย้ำจุดยืนภาพลักษณ์ผู้นำที่แข็งแกร่งของ โดนัลด์ ทรัมป์

จอห์น ทาวน์เซนด์  อดีตรองผู้ช่วยเลขาธิการของยุโรปและนาโต ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการโต้เถียงกันอย่างดุเดือดที่เกิดขึ้นในทำเนียบขาวว่า มีคนจำนวนไม่น้อยที่คิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้น สิ่งที่เราได้เห็นคือการจัดฉาก เพราะทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นต่อหน้ากล้อง ต่อหน้าสื่อมวลชนจำนวนมาก แต่ส่วนตัว เขาไม่ได้คิดขนาดที่ว่านี่เป็นการจัดฉาก แต่เขาคิดว่าเป็นการแสดง ซึ่งทรัมป์ต้องการแสดงโชว์อะไรบางอย่างให้คนดูได้เห็น ซึ่งในช่วงหนึ่งของการโต้เถียงกัน ทรัมป์พูดออกมาด้วยว่าเขาอยากให้คนอเมริกันได้เห็นเรื่องที่เกิดขึ้น ต่อหน้าสื่อมวลชนทั้งหมดที่อยู่ในห้อง ทรัมป์จึงสวมบทบาทการเป็นคนที่แข็งแกร่ง ภาษาอังกฤษคือคำว่า Tough Guy ในภาษาไทยอาจจะเรียกว่าคนเก๋า ลูกผู้ชายหรือนักเลง แล้วก็พูดจาโผงผาง ขึ้นเสียง ใส่อารมณ์ และสั่งสอนเซเลนสกีอย่างที่เราได้เห็น โดยตอนไหนที่ทรัมป์เริ่มจะใส่อารมณ์มากเป็นพิเศษ เจดี แวนซ์ ก็จะพูดแทรกเข้ามาช่วยเบรคลดความรุนแรงลง เหมือนการเล่นบทตำรวจดี กับตำรวจเลว ที่จะมีตำรวจดีคนหนึ่ง คอยพูดจาดี ๆ เกลี้ยกล่อมผู้ต้องหาให้รับสารภาพ และจะมีตำรวจเลวอีกคนหนึ่ง คอยพูดจารุนแรง ข่มขู่ให้ผู้ต้องหากลัว ซึ่งในความคิดเห็นของเขานั้น เขามองว่าคนอเมริกันควรจะรู้สึกอับอายมากกว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์ พูดจาแบบนี้ ซึ่งดูเหมือนมาเฟียมากกว่าจะเป็นประธานาธิบดี

ในความคิดของ จอห์น ทาวน์เซนด์  เขาไม่คิดว่านี่เป็นการจัดฉากหรือมีการเตี๊ยมกันมาก่อน แต่อย่างน้อย เขาเชื่อว่ามันคือการแสดงเพื่อเอาใจคนดูของทรัมป์ ซึ่งทรัมป์เห็นโอกาสที่จะพูดจาไล่ต้อนเซเลนสกี จึงฮุบโอกาสตรงนี้ เล่นใหญ่เพื่อเอาใจคนดูที่รับชมการถ่ายทอดสด และกลายเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลก ซึ่งช่วยตอกย้ำภาพลักษณ์ของทรัมป์ที่รับบทผู้นำสหรัฐฯ และเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการยุติสงครามครั้งนี้ รวมทั้งเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของอเมริกา ไม่ให้เสียเงินจำนวนมหาศาลไปกับการสนับสนุนยูเครนให้สู้รบกับรัสเซียต่อไป

ที่มาข้อมูล : Reuters

ที่มารูปภาพ : Reuters