แคนาดาเร่งสืบสวน เหตุเครื่องบินหงายท้อง

เจ้าหน้าที่ของคณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งของแคนาดา ซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระที่ทำการสอบสวนเหตุการณ์เครื่องบินตก กำลังเร่งเดินหน้าสอบสวนหาสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินโดยสารของสายการบิน Endeavor Air ซึ่งเป็นสายการบินลูกของ เดลต้า แอร์ไลน์ ของสหรัฐฯ พลิกหงายท้องและเกิดเพลิงลุกไหม้ ขณะลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติ โทรอนโต-เพียร์สัน ในนครโทรอนโต เมื่อช่วงบ่ายวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น (17 ก.พ.) แต่โชคดีที่ผู้โดยสารและลูกเรือรวม 80 คนรอดชีวิตทั้งหมด มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 18 ราย ในจำนวนนี้อาการสาหัส 3 คน ส่วนอีก 15 คนบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย  บนเครื่องมีชาวแคนาดา 22 คน ที่เหลือเป็นผู้โดยสารหลายสัญชาติ

เครื่องบินที่ประสบเหตุเป็นรุ่น CRJ900 ผลิตโดยบริษัทบอมบาดิเอร์ของแคนาดา เป็นเครื่องบินขนาด 90 ที่นั่ง ใช้งานมาแล้ว 16 ปี ก่อนเกิดเหตุเครื่องออกเดินทางมาจากสนามบินในเมืองมินนีแอโพลิส ในรัฐมินนิโซตาของสหรัฐฯ และมาลงจอดที่สนามบิน โทรอนโต-เพียร์สัน เมื่อเวลา 14.15 น. ของวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น ผู้โดยสารบนเครื่องเล่าว่า ทันทีที่เครื่องบินลงแตะพื้นรันเวย์ก็เกิดการส่ายไปมาจากนั้นก็พลิกหงายท้อง ทำให้ผู้โดยสารต้องห้อยหัวอยู่กับที่นั่ง และต่างพยายามให้การช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่ ก่อนที่เจ้าหน้าที่สนามบินจะเข้ามาช่วยอพยพออกจากเครื่อง พร้อมกับที่เจ้าหน้าดับเพลิงกำลังเร่งฉีดโฟมดับไฟที่กำลังไหม้เครื่องบินอยู่

แคนาดาเร่งสืบสวน เหตุเครื่องบินหงายท้อง

สรุปข่าว

เจ้าหน้าที่แคนาดากำลังเร่งสืบสวนหาสาเหตุของเครื่องบินโดยสารสายการบินลูกของเดลต้า แอร์ไลน์ ประสบอุบัติเหตุพลิกหงายท้องขณะลงจอดที่สนามบินในนครโทรอนโต ประเทศแคนาดา โดยทั้งคณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งของแคนาดา และสายการบินเดลต้า แอร์ไลน์ ยังไม่ได้แถลงเกี่ยวกับรายละเอียดต่าง ๆ โดยระบุว่ากำลังรวบรวมข้อมูลและจะเปิดเผยให้ทราบโดยเร็วที่สุด และยังไม่มีการเอ่ยถึงกล่องดำของเครื่องบิน

สภาพของเครื่องบินหลังเกิดเหตุตัวเครื่องหงายท้องอยู่บนพื้นสนามบินที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ และพบว่าปีกด้านขวาของเครื่องบินสูญหายไป บนลำตัวเครื่องบินมีเขม่าควันเกาะอยู่บางส่วน จนถึงขณะนี้ ทั้งคณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งของแคนาดา และสายการบินเดลต้า แอร์ไลน์ ยังไม่ได้แถลงเกี่ยวกับรายละเอียดต่าง ๆ โดยระบุว่ากำลังรวบรวมข้อมูลและจะเปิดเผยให้ทราบโดยเร็วที่สุด  และยังไม่มีการเอ่ยถึงกล่องดำของเครื่องบิน

ขณะที่สื่อรายงานว่าในช่วงที่เกิดเหตุมีกระแสลมแรงและมีหิมะตก สอดคล้องกับข้อมูลจากเว็บไซต์ FlightRadar24 ระบุว่าในขณะที่เกิดเหตุมีกระแสลมตัดขวางและมีหิมะตกเช่นกัน แต่หัวหน้าหน่วยดับเพลิงเพียร์สันกลับแถลงว่าในขณะนั้นรันเวย์มีสภาพแห้งและไม่มีลมตัดขวาง อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทำให้สนามบินต้องปิดการขึ้น-ลงของเครื่องบินจนถึงช่วงเย็นของวันเดียวกัน และในช่วง 2-3 วันหลังจากนี้ บริการต่างๆ ที่สนามบินจะเกิดความล่าช้า ขณะที่รันเวย์ 2 เส้นจะต้องปิดใช้งานไปอีกหลายวันเพื่อทำการตรวจสอบหาสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้

ที่มาข้อมูล : Reuters

ที่มารูปภาพ : Reuters