‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ลงนามคำสั่งสหรัฐฯ ถอนตัวจาก องค์การอนามัยโลก
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ลงนามคำสั่งบริหารในวันแรกของการทำงาน วันเดียวกับที่สาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 47 สั่งให้สหรัฐฯ ถอนตัวออกจากองค์การอนามัยโลก หรือ WHO นับเป็นหนึ่งในคำสั่งบริหารชุดแรกที่ทรัมป์ได้ลงนามใน "เดย์ 1" หรือวันแรกของการทำงานหลังการสาบานตน
ทรัมป์ กล่าวที่ทำเนียบขาว ไม่กี่ชั่วโมงหลังสาบานตน ระบุเหตุผลการถอนตัว อ้างความไม่เสมอภาคที่ประเทศต่าง ๆ ให้เงินทุนสนับสนุนดับเบิลยูเอชโอ ระบุว่า สหรัฐฯ ให้เงินสนับสนุนดับเบิลยูเอชโอมากกว่าเมื่อเทียบกับจีน ดับเบิลยูเอชโอถูกทรัมป์ตำหนิมาตลอดเมื่อครั้งจัดการการระบาดของโควิด-19
สหรัฐฯ เป็นประเทศผู้บริจาครายใหญ่สุดของดับเบิลยูเอชโอ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ เงินสนับสนุนจากสหรัฐฯ มีความสำคัญต่อการดำเนินงานขององค์การระดับโลกด้านสาธารณสุขแห่งนี้
การถอนตัวของสหรัฐฯ คาดว่าจะทำให้ดับเบิลยูเอชโอต้องปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ และจะยิ่งส่งผลกระทบต่อความริเริ่มด้านสาธารณสุขในระดับโลก
สรุปข่าว
ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่ทรัมป์ต้องการตัดสัมพันธ์กับองค์การสาธารณสุขโลกแห่งนี้ ครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อทรัมป์เป็นประธานาธิบดีสมัยแรกเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ครั้งนั้นสหรัฐฯ ได้ยื่นหนังสือแสดงเจตจำนงถึงดับเบิลยูเอชโอแจ้งถอนตัวจากองค์การแห่งนี้ กล่าวหาดับเบิลยูเอชโอได้รับอิทธิพลมากเกินไปจากจีนในช่วงต้น ๆ ของการระบาดของโควิด-19 แต่จุดยืนดังกล่าวของทรัมป์ได้ถูกอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดนเพิกถอนไปในสมัยของไบเดน
พร้อมกันนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ชุดใหม่ของทรัมป์ยังประกาศแผนที่จะทบทวนเพื่อเพิกถอน "แผนยุทธศาสตร์ความมั่นคงทางสาธารณสุขระดับโลกของสหรัฐฯ ปี 2024" (2024 US Global Health Security Strategy) ซึ่งเป็นแผนของรัฐบาลไบเดน ที่มีจุดประสงค์ป้องกัน ตรวจสอบและตอบสนองต่อภัยคุกคามโรคระบาด
ทั้งนี้ ประเทศสมาชิกดับเบิลยูเอชโอรวมถึงสหรัฐฯ กำลังเจรจาเพื่อบรรลุสนธิสัญญาฉบับแรกของโลกเกี่ยวกับการป้องกัน เตรียมพร้อมและรับมือโรคระบาด การเจรจาเริ่มมาตั้งแต่ปลายปี 2021 ถ้าหากสหรัฐฯ ถอนตัวจากดับเบิลยูเอชโอ การเจรจาจากนี้ไปจะไม่มีสหรัฐฯ เข้าร่วมอีกต่อไป.