ปารีสทำได้ ลดสร้างมลพิษระหว่างการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 2024 ลอสแองแจลิสควรเรียนรู้อะไรก่อนเป็นเจ้าภาพ

ปารีสทำได้ ลดสร้างมลพิษระหว่างการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 2024 ลอสแองแจลิสควรเรียนรู้อะไรก่อนเป็นเจ้าภาพ

สรุปข่าว

ผู้จัดงานมหกรรมกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกกรุงปารีส 2024 ออกมาแถลงผลการจัดงานว่าสามารถลดดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 1.59 ล้านตัน หรือคิดเป็น 54.6 เปอร์เซ็นต์ จากการจัดโอลิมปิกในครั้งก่อน ๆ ไม่ว่าจะเป็นที่กรุงลอนดอนของอัง หรือนครรีโอเดจาเนโรของบราซิล 


จากข้อมูลของรัฐบาลฝรั่งเศสเผยว่าคาร์บอนไดแแกไซด์ที่ปารีสสามารถลดได้มีจำนวนเท่ากับการขับรถยนต์รอบโลกถึง 182,675 ครั้ง หรือสามารถเทียบได้กับจำนวนคาร์บอนไดออกไซด์จากเครื่องบินเส้นทางไปกลับนิวยอร์ก-ปารีส 898,305 ครั้งเลยทีเดียว จึงเกิดคำถามว่าโอลิมปิก 2028 ที่นครลลอสแองเจลิสของสหรัฐฯ จะสามารถเรียนรู้อะไรจากความสำเร็จในการลดคาร์บอดไดออกไซด์ของกรุงปารีสบ้างและคณะผู้จัดงานมหกรรมกีฬาโอลิมปิกของปารีสได้ให้ทริคมาดังนี้ 


-คิดล่วงหน้าเกี่ยวกับคาร์บอนไดออกไซด์-


ผู้จัดงานโอลิมปิกของปารีสกล่าวว่าการคิดและตั้งเป้าหมายถึงการลดคาร์บอนไดออกไซด์ล่วงหน้าคือสิ่งสำคัญที่สุด เมื่อเริ่มวางแผนเตรียมงานต่าง ๆ จะทำให้เราตระหนักถึงกรอบเป้าหมายที่ตั้งไว้เสมอและมันควรมีตั้งแต่จุดเริ่มต้นของการเริ่มทำงานทุก ๆ อย่าง โดยจอร์จีนา เกรนอน หัวหน้าผู้จัดงานฝ่ายสิ่งแวดล้อมของปารีสกล่าวว่า “ถ้าอยากจะเปลี่ยนแปลง เราต้องคิดค้นสิ่งใหม่”


-เริ่มจากจุดเล็ก ๆ -


การลดคาร์บอนไดออกไซด์ทำได้ด้วยการเริ่มจากสิ่งเล็ก ๆ แต่แทรกซึมอยู่ในทุกขั้นตอน ยกตัวอย่างจากกระถางคบเพลิงของกรุงปารีสที่สร้างความตะลึงให้คนทั้งโลกมาแล้วที่ไม่ใช่แค่ความสวยงามแต่มันยังลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้จริง 


กระถางคบเพลิงของปารีสที่เป็นบอลลูนเมื่อมีการจุดควันและไฟที่พุ่งออกมาอย่างที่เราเห็นนั้นไม่ใช่ไฟและควันพิษจากไฟจริง ๆ แต่ผู้จัดงานได้ใช้หลอดไฟแบบ LED ที่มีผลดีต่อสิ่งแวดล้อมและช่วยลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนได้มาใช้ร่วมกับเทคนิคพิเศษเพื่อให้ดูเหมือนเป็นไฟและควันจริง ๆ ซึ่งแค่กระถางคบเพลิงก็สามารถลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 300 เท่าเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับการจุดไฟจริง ๆ และมันยังสร้างภาพจำที่ตรึงใจให้กับทั่วโลกอีกด้วย และไม่ใช่แค่กระถางคบเพลิงที่นำหลอดไฟมาใช้แต่คณะผู้จัดงานกล่าวว่ากว่า 98.4 ของสิ่งก่อสร้างทุกอย่างที่ปรากฏให้เห็นในโอลิมปิกของปารีสเป็นการใช้ระบบไฟฟ้าที่อาศัยพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมทั้งสิ้น


อีกหนึ่งตัวอย่างของการเริ่มต้นจากจุดเล็ก ๆ ที่น่าสนใจคือการใช้อาหารประเภท Plant-based มาเสิร์ฟในเมนูต่างของนักกีฬา อาทิ ฮอตด็อก ที่จะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนได้มากกว่าใช้เนื้อจริง รวมไปถึงอาหารที่เสิร์ฟให้กับเหล่าคนงานและอาสาสมัครปารีสโอลิมปิกก็มี “คาร์บอน ฟุตปรินต์” ที่น้อยกว่าอาหารฝรั่งเศสแบบดั้งเดิมหลายเท่าด้วย 


-มีข้อดีแต่ยังมีจุดอ่อน-


คณะผู้จัดงานมองเห็นปัญหาที่กลับมาทำร้ายตัวเอง เมื่อตั๋วเข้าชมการแข่งขันโอลิมปิกที่ปารีสถูกขายมากเกินไปจนทำให้คนมหาศาลล้นกรุงปารีสที่ทำให้เกิดปัญหามลพิษจากการเดินทางของกลุ่มผู้ชมตามมา ปารีสเปิดขายตั๋วมากกว่า 12 ล้านใบให้กับผู้ชมจากทั่วโลกจนทำลายสติถิเดิมที่เมืองเจ้าภาพโอลิมปิกอื่น ๆ เคยทำ 


ขณะเดียวกันผู้ชมจากทั่วโลกที่ต้องเดินทางมาจากประเทศของพวกเขาด้วยระยะทางที่ต่างกันก็เป็นอีกหนึ่งจุดอ่อน โดยเฉพาะผู้ชมจากประเทศที่อยู่นอกทวีปยุโรปที่ใช้เวลาเดินทางนานก็ยิ่งเพิ่มมลภาวะจากการโดยสารเครื่องบินพาณิชย์


-ปารีสจ่ายค่าชดเชยปล่อยคาร์บอนให้กับหลายประเทศ-


คณะผู้จัดงานเผยแม้ปารีสจะประสบความสำเร็จในการลดคาร์บอนแต่ก็ไม่ลืมจะชดเชยเงินกว่า 12 ล้านยูโร ในส่วนที่เป็นจุดอ่อนที่สร้างผลกระทบให้กับหลายประเทศทั้งในแอฟริกา เอเชีย และ อเมริกากลาง แต่ผู้จัดงานของปารีสยืนยันว่าแม้จะลดคาร์บอนได้จริงแต่ปารีสไม่เคยประกาศว่าการแข่งขันนี้จะเป็น  “carbon neutral” หรือ การปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศให้สมดุลกับปริมาณของคาร์บอนที่ถูกดูดซับกลับคืนผืนป่าเลยก็ตาม แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือปารีสสามารถลดจำนวนคาร์บอนไดออกไซด์ได้เกินกว่าที่พวกเขาได้ตั้งเป้าไว้ก่อนหน้านี้เสียอีก

ที่มาข้อมูล : -

ที่มารูปภาพ :

แท็กบทความ