‘สี จิ้นผิง’ เยือนฝรั่งเศส ผลักดันหยุดทั่วโลกยิงช่วง ‘ปารีส โอลิมปิก’

‘สี จิ้นผิง’ เยือนฝรั่งเศส ผลักดันหยุดทั่วโลกยิงช่วง ‘ปารีส โอลิมปิก’

สรุปข่าว

CCTV+ ของจีน รายงานประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน แถลงข่าวร่วมกับประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ที่กรุงปารีสวานนี้ (6 พฤษภาคม) หลังการหารือของ 2 ผู้นำในวันแรกของการเยือนฝรั่งเศส ประธานาธิบดีสี กล่าวคัดค้านการใช้วิกฤตยูเครนในการหาแพะรับบาป หรือให้ร้ายประเทศที่ 3 และจุดชนวนให้เกิด “สงครามเย็นใหม่” 


ประธานาธิบดีสี กล่าวต่อไปว่า โลกทุกวันนี้กำลังประสบการเปลี่ยนแปลงและปั่นป่วน อย่างที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนในรอบ 100 ปี จีนและฝรั่งเศสควรสนับสนุนความเป็นอิสระ และร่วมกันขจัดปัดเป่ามิให้เกิด “สงครามเย็นครั้งใหม่” หรือเกิดการเผชิญหน้าระหว่างกลุ่ม


พร้อมกันนี้ ผู้นำจีนยังเรียกร้องให้จัดการประชุมระหว่างประเทศ ที่ได้รับการยอมรับทั้งจากรัสเซียและยูเครนอย่าง “ทันท่วงที” ด้วย


สี จิ้นผิง กล่าวในการแถลงข่าวร่วมกับผู้นำฝรั่งเศสต่อไปว่า จีนพร้อมริเริ่มร่วมกับฝรั่งเศส ผลักดันให้เกิดการหยุดยิงทั่วโลก ในช่วงที่ฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพจัด “ปารีส โอลิมปิก” 


ประธานาธิบดีสี เรียกร้องจีน-ฝรั่งเศสร่วมกันพยายามสร้างความร่วมมือระหว่างจีน-ฝรั่งเศส “ยุคใหม่” เริ่มการเดินทางครั้งใหม่สำหรับความสัมพันธ์ทวิภาคีตลอดอีก 60 ปีข้างหน้า เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมใหม่ ๆ ในสันติภาพและเสถียรภาพโลก รวมไปถึงการพัฒนามนุษย์ให้ก้าวหน้าต่อไป


ผู้นำจีน กล่าวต่อไปว่า จีนพร้อมทำงานร่วมกับทั้งฝรั่งเศสและประเทศอื่น ๆ ในโลก มือจับมือ เดินหน้าฝ่าลมและฝน เพื่อร่วมกันสร้างอนาคตที่ดีกว่า ปีนี้เป็นปีที่ 75 ของการก่อตั้งประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน จีนเผชิญการเปลี่ยนแปลงมาอย่างมหาศาล แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนสำหรับจีนและชาวจีน คือ ธรรมชาติของการรักสันติ เพราะสิ่งนี้ได้ยั่งรากลึกในอารยธรรมจีนที่ดำรงอยู่อย่างยาวนานมามากกว่า 5,000 ปี


ทั้งนี้ ประธานาธิบดีสี อยู่ระหว่างเยือนฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการ ประเทศแรกในการเยือนยุโรปเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีของผู้นำจีน หลังจากเสร็จสิ้นการเยือนฝรั่งเศส ผู้นำจีนจะเดินทางออกจากฝรั่งเศส ไปเยือนเซอร์เบียและฮังการีอย่างเป็นทางการ โดยจะจบการเยือนยุโรปที่ฮังการี


การเยือนยุโรปของผู้นำจีนครั้งนี้ เกิดขึ้นก่อนหน้าที่ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย จะเดินทางเยือนจีนในเร็ว ๆ นี้

—————

ภาพ: Reuters

ที่มาข้อมูล : -

ที่มารูปภาพ :