ภาษี "ทรัมป์" ทำค้าปลีกสหรัฐฯ วุ่น ซัพพลายเออร์ขอขึ้นราคา l การตลาดเงินล้าน

ผลลัพธ์ของการพูดคุยจะกำหนดว่าราคาสินค้าจะเพิ่มขึ้นเมื่อใดและเพิ่มขึ้นมากเพียงใด และแม้กระทั่งสินค้าใดที่ผู้ค้าปลีกจะยังคงวางจำหน่ายบนชั้นวางในร้าน

ผู้ค้าปลีกรายใหญ่กล่าวว่าพวกเขาไม่สามารถขึ้นราคาขายปลีกโดยไม่สูญเสียส่วนแบ่งการตลาดและทำให้ผู้ซื้อชาวอเมริกันไม่พอใจ จุดยืนของพวกเขาทำให้เกิดการถกเถียงอย่างดุเดือดเกี่ยวกับการกำหนดราคาสินค้ากับซัพพลายเออร์ที่มีต้นทุนพุ่งสูงขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ เจ. ทรัมป์กำหนดนโยบายภาษี

ด้านเครื่องครัว เดวิด ดัลควิสต์ ซีอีโอของนอร์ดิค แวร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องครัวรายย่อยในมินนิอาโปลิส ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการที่ทรัมป์กำหนดภาษีนำเข้าอะลูมิเนียมร้อยละ 25 สำหรับสินค้าแม่พิมพ์ของขนมเค้ก และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ

แต่ข้อเท็จจริงที่ว่าต้นทุนของเขาพุ่งสูงขึ้นร้อยละ 5 - 10 เนื่องมาจากภาษีศุลกากรใหม่ที่เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม ทำให้เขากำหนดราคาสำหรับผู้ค้าปลีกในฤดูกาลใหม่ซึ่งจะสิ้นสุดลงในช่วงปลายปีได้ยากขึ้น 

สรุปข่าว

นโยบายทางภาษีของประธานาธิบดีสหรัฐฯ เห็นผลทันตา เมื่อผู้ค้าปลีกในสหรัฐฯ ทั้ง Walmart และ Target กำลังเจรจากับซัพพลายเออร์ของพวกเขาเกี่ยวกับการเสนอขึ้นราคาสินค้าหลายประเภทตั้งแต่แม่พิมพ์ขนมอบ กระเป๋าผ้า ของเล่น และสินค้าอื่น ๆ

ดัลควิสต์ กล่าวในการให้สัมภาษณ์ว่าผู้ค้าปลีกส่วนใหญ่ต้องการการแจ้งล่วงหน้า 60 วันสำหรับการขึ้นราคา ไม่ใช่แค่ส่งของไปก็ขายได้ทันที จากนั้นพวกเขาจะตรวจสอบและวิเคราะห์ด้วยตัวเองว่าราคานั้นสมเหตุสมผลหรือไม่ ซึ่งหมายความว่าต้องใช้เวลาหลายเดือนในการดำเนินการตามนั้น ในระหว่างนี้ บริษัทของดัลควิสต์จะต้องรับผิดชอบต้นทุนที่สูงขึ้น

Walmart กล่าวในแถลงการณ์ว่า การสนทนาของบริษัทกับซัพพลายเออร์ทั้งหมดมีจุดมุ่งหมายเพื่อทำให้เป้าหมายของบริษัทเป็นจริงสำหรับลูกค้าหลายล้านคน และบริษัทจะยังคงทำงานอย่างใกล้ชิดกับซัพพลายเออร์ต่อไปเพื่อค้นหาวิธีการที่ดีที่สุดในการก้าวไปข้างหน้าในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอนนี้

ในการขายปลีก ซึ่งแตกต่างจากการผลิต กระบวนการในการปรับขึ้นราคาจะใช้เวลานานและยุ่งยากเนื่องจากสัญญาแบบทั่วไปที่ผู้ค้าปลีกใช้กับซัพพลายเออร์สินค้าของตน สำหรับผู้ขาย การจัดการกับวอลมาร์ทนั้นยากเสมอมาเนื่องจากขนาดของธุรกิจ ซึ่งสร้างยอดขายได้มากกว่า 446,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อปีในสหรัฐฯ ก่อนหน้านี้ วอลมาร์ทยังเคยกล่าวไว้ว่าจะตรวจสอบต้นทุนทุกรายการก่อนที่จะตกลงตามข้อเสนอการปรับขึ้นราคาที่ซัพพลายเออร์เสนอ

ความเสี่ยงที่แบรนด์ต่าง ๆ จะถูกไล่ออกจากชั้นวางของวอลมาร์ทเพราะข้อพิพาทเรื่องราคาอาจส่งผลเสียต่อซัพพลายเออร์อย่างมาก ดัลควิสต์กล่าวว่าหากผู้ค้าปลีกไม่เห็นด้วยกับการขึ้นราคา ผู้ค้าปลีกก็จะสลับไปจำหน่ายสินค้าของแบรนด์อื่นแทน เนื่องจากเครื่องครัวเป็นหมวดหมู่ที่มีทางเลือกมากมายในราคาที่ถูกกว่า จึงยากที่จะขึ้นราคาแล้วคงความต้องการของลูกค้าที่มีต่อผลิตภัณฑ์ของเขาให้ไม่ลดลงในสภาพแวดล้อมปัจจุบัน

ส่วนอุปกรณ์สวมใส่ ภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนร้อยละ 20 ที่ทรัมป์กำหนดเมื่อต้นปีนี้ทำให้คิม วัคคาเรลลา ผู้ก่อตั้ง Bogg Bag ในเมืองซีคอคัส รัฐนิวเจอร์ซี ต้องขึ้นราคากระเป๋าอีก 5 ดอลลาร์สหรัฐฯ โดย Bogg จำหน่ายกระเป๋าผ้าสีสันสดใสที่ผลิตในจีนใน Target ซึ่งขายกระเป๋าขนาดดั้งเดิมในราคา 90 ดอลลาร์สหรัฐฯ

โฆษกของ Target ได้แนะนำให้ สำนักข่าวรอยเตอร์ส พิจารณาความคิดเห็นของผู้บริหารระดับสูงในระหว่างการประชุมนักลงทุนเมื่อเร็ว ๆ นี้ ในการประชุมเมื่อวันที่ 4 มีนาคม ริค โกเมซ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์ของ Target กล่าวว่ายังเร็วเกินไปที่จะบอกว่าราคาสินค้าแต่ละชิ้นจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร แต่ผู้ค้าปลีกรายนี้กำลังพิจารณากำหนดราคาโดยรวมใหม่

ผู้ค้าปลีกบางรายได้ขอให้วัคคาเรลลาพิจารณาปรับลดราคาขายส่งลง เธอกล่าวว่า บริษัทของเธอกำลังมองหาสถานที่ผลิตทางเลือกในศรีลังกา เวียดนาม และโรงงานต้นทุนต่ำกว่าอื่นๆในจีน

ส่วนของเล่น ไอแซค ลาเรียน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ MGA Entertainment ผู้ผลิตตุ๊กตาแบรตซ์กล่าวว่า บริษัทกำลังเจรจากับผู้ค้าปลีกเกี่ยวกับการขึ้นราคาของเล่นที่ผลิตในจีน ซึ่งบริษัทต้องการให้มีผลบังคับใช้ในเดือนเมษายน ของเล่นของ MGA มีจำหน่ายใน Walmart และ Target รวมถึงร้านค้าอื่น ๆ ด้วย

ลาเรียน กล่าวว่าเป็นหน้าที่ของผู้ค้าปลีกที่จะต่อต้านและบอกว่าไม่ต้องการให้ขึ้นราคา เพราะผู้บริโภครู้สึกเครียด

อย่างไรก็ตาม ลาเรียน กล่าวว่าเขาไม่คิดว่าจะสามารถส่งต่อภาษีศุลกากรทั้งร้อยละ 20 ให้กับผู้ค้าปลีกได้เต็มจำนวนด้วยการขึ้นราคาร้อยละ 20 แต่เราจะรับผิดชอบร่วมกัน ด้วยการลดอัตรากำไรลง และแบกรับต้นทุนภาษีศุลกากรคนละครึ่ง 

avatar

พัสวี ฐิติพรวัฒนกุล

แท็กบทความ

การตลาดเงินล้านWalmart
Target
นโยบายทางภาษีทรัมป์
สหรัฐฯ