กระแสซีรีส์วาย หรือ Boy love และรวมถึง Girl love หรือ ยูริ ของไทยกำลังเติบโต และครองใจฐานผู้ชมจำนวนมากขึ้นอย่างรวดเร็ว อีกทั้ง ปัจจุบัน มีภาพยนตร์ ซีรีส์ และเรื่องสั้น ที่ออกอากาศผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ รวมกันแล้ว มีมากกว่า 340 เรื่อง ซึ่งกินส่วนแบ่งตลาดมากกว่าคู่แข่งในเอเชีย
มีรายงานวิจัยจาก ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ เผยว่า ปี 2567 ที่ผ่านมา ไทยถือเป็นผู้นำในตลาดภาพยนตร์ และซีรีส์วาย ด้วยสัดส่วนที่มากกว่าครึ่งหนึ่ง ของซีรีส์วาย ที่ออกอากาศทั้งหมดในเอเชีย
ส่วน Boy love มีออกอากาศมากกว่าปีละ 50 เรื่อง ตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นมา ทำให้ปัจจุบัน ไทย มีภาพยนตร์ และซีรีส์ รวมถึงเรื่องสั้น Boy love ที่ออกอากาศรวมกันแล้ว มีมากกว่า 300 เรื่อง
ทำให้ ณ ปี 2567 ไทยถือครองสัดส่วนราวร้อยละ 55 ของซีรีส์ Boy love ที่ออกอากาศทั้งหมดในเอเชีย รองมาคือ ญี่ปุ่น มีสัดส่วนร้อยละ 13 ถัดมาคือ เกาหลีใต้ ร้อยละ 9 และ ไต้หวัน สัดส่วนที่ ร้อยละ 6 และทั้ง 3 ประเทศนี้ ที่ถือว่าเป็นคู่แข่งสำคัญของไทยในตลาดซีรีส์วาย มีสัดส่วนรวมกันอยู่ที่ ร้อยละ 28 ขณะที่เวียดนาม มีสัดส่วนร้อยละ 4 และสัดส่วนที่เหลือ เป็นตลาดอื่น ๆ
สรุปข่าว
ส่วน ซีรีส์ Girl love หรือ ยูริ ในปี 2567 มี ภาพยนตร์ ซีรีส์ และเรื่องสั้น Girl love ของไทย ออกอากาศ มากกว่า 40 เรื่อง หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 60 ของเอเชีย รองมาคือ ฟิลิปปินส์ ที่มีสัดส่วน ร้อยละ 16 ซึ่ง ฟิลิปปินส์ เองนั้น ก็ถือเป็นฐานผู้ชมที่สำคัญของซีรีส์วายไทย ส่วน ซีรีส์ Girl love ของเกาหลีใต้ มีสัดส่วน อยู่ที่ร้อยละ 9 และของ ญี่ปุ่น ที่ร้อยละ 6 ส่วนที่เหลือเป็นตลาดอื่น ๆ เช่น จีน และ ไต้หวัน เป็นต้น
รายงานวิจัยดังกล่าว ชี้ให้เห็นด้วยว่า ซีรีส์ Girl love ของไทย กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ สะท้อนได้จากสถิติยอดรับชมบนยูทูป ณ เดือนพฤศจิกายน 2024 ของเรื่อง "Blank (แบล็ง) เติมคำว่ารักลงในช่องว่าง" พบว่า มียอดชม เฉลี่ยราว 5 ล้าน 8 แสนครั้งต่อตอน ซึ่งใกล้เคียงกับ ซีรีส์วาย เรื่อง "we are (วี อาร์) คือเรารักกัน" ที่ออกอากาศในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน มียอดรับชมเฉลี่ยที่ 6 ล้าน 8 แสนครั้งต่อตอน
หนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้ ซีรีส์ วาย และยูริ ของไทยเติบโต อีกทั้ง ยังครองใจฐานผู้ชมทั่วโลก มาจากความนิยมของบรรดาแพลตฟอร์มสตริมมิง หรือ โอทีที ที่ให้ ผลงานซีรีส์วายของไทยเข้าถึงกลุ่มผู้ชมเป้าหมายในต่างประเทศในง่ายมากขึ้น และทำให้มีการผลิตเพื่อตอบสนองความสนใจเพิ่มขึ้นตามมา
ซึ่งแพลตฟอร์ม สตรีมมิง ก็เช่น Youtube (ยูทูป), WeTv (วี ทีวี), iQiYi (อ้ายฉี่ยี่) และ VIU (วิว) รวมถึงแพลตฟอร์มที่นำเสนอเนื้อหาเฉพาะกลุ่ม LGBTQIA+ (แอล จี บี ที คิว ไอ เอ พลัส) อย่างแพลตฟอร์ม GagaOOLala (กาก้าอูลาล่า) ด้วย
นอกจากนี้ SCB EIC คาดการณ์ด้วยว่า สัดส่วนของซีรีส์วาย ต่อมูลค่าการผลิตของสื่อบันเทิงไทยโดยรวม กำลังขยายตัวมากขึ้น จากปี 2562 ที่สัดส่วนร้อยละ 0.7 เป็นร้อยละ 3.9 ในปี 2568
โดยหากเทียบดูรายปี จะเห็นได้ว่ามูลค่าของตลาดซีรีส์วายไทย เติบโตอย่างก้าวกระโดด จาก 851 ล้านบาท ในปี 2562 เป็นมูลค่า 2,869 ล้านบาท ในปี 2565 คิดเป็นอัตราการเติบโต ร้อยละ 50
จากนั้นปี 2566 มีมูลค่า 3,470 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 21 และเติบโตขึ้นอีกในปี 2567 มีมูลค่า 4,211 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโต ร้อละ 21 เช่นเดียวกัน
ส่วนคาดการณ์ปี 2568 หรือปีนี้ คาดว่ามูลค่าตลาดจะเพิ่มขึ้นอีกเป็น 4,929 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตร้อยละ 17 จากปีที่แล้ว
เมื่อเทียบกับมูลค่าการผลิตสื่อบันเทิงไทยในภาพรวม ปี 2567 ที่ผ่านมา มีมูลค่า 121,000 ล้านบาท เติบโตจากปีที่แล้ว อัตราร้อยละ 3.3 ส่วนปีนี้ คาดว่าจะเติบโตขึ้นอีกร้อยละ 4.1 และมีมูลค่าอยู่ที่ 126,000 ล้านบาท
สะท้อนให้เห็นว่า ซีรีส์วาย มีโอกาสเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนการเติบโต ของอุตสาหกรรมการผลิตสื่อบันเทิงไทย
ทั้งนี้ การเติบโตของซีรีส์วายไทย ที่สามารถขยายตลาดได้กว้างไปในตลาดโลก มุมมองจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.บุญยิ่ง คงอาชาภัทร หัวหน้าสาขาการตลาด วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล บอกว่า หากมองในเชิงจิตวิทยาการตลาด ซีรีส์วายไทย มีความพิเศษ ตรงที่สามารถตอบโจทย์ของผู้ชมได้เป็นอย่างดี
โดยโจทย์ของผู้ชมทั่วโลก ที่นอกจากจะมองหาความบันเทิงแล้ว คนส่วนใหญ่จะเซนซิทีฟ ไปกับบางเรื่อง เช่น ความรัก หรือความกลัว เป็นต้น ซึ่งซีรีส์วาย ไทย เป็นการมอบให้ทั้งความบันเทิง และความสุขทางใจ ผ่านการแสดง การปฏิบัตต่อกันระหว่าง ชายกับชาย หรือ หญิงกับหญิง ที่มีความละมุนไปอีกแบบ รวมถึงภาษาที่ใช้ จึงทำให้เกิดความสุขทางใจแก่ผู้ชม หรือที่เรียกว่า ความฟิน
นอกจากนี้ ในไทยเอง ยังเปิดกว้างในเรื่องของความเท่าเทียมกันมากขึ้น
ขณะเดียวกัน เทรนด์โลกในปัจจุบันที่มีคนโสด คนแต่งงานช้า คนที่หย่าร้างและอยู่คนเดียว มากขึ้น ซึ่งการได้รับชมสิ่งบันเทิง หรือเรื่องราว ฟิน ๆ ยังเป็นการช่วยเยียวยา หรือฮีลใจให้แก่ผู้ชม นั่นยิ่งทำให้ตลาดหรือฐานผู้ชมขยายกว้างมากขึ้น โดยไม่จำกัดเพศ หรือวัย และกลายเป็นกระแสหลักของตลาดในปัจจุบัน
พัสวี ฐิติพรวัฒนกุล