"บัตรทอง" ของ "ทรัมป์" ขายได้จริงยอดพันใบในวันเดียว รมว.พาณิชย์สหรัฐฯ อ้าง

ฮาวเวิร์ด ลุทนิค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า “บัตรทอง” (Gold Card) หรือที่รู้จักกันว่ามันคือบัตรวีซาทองคำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจนสามารถขายบัตรทองนี้ให้กับชาวต่างได้มากถึง 1 พันใบ “ในวันเดียว” และมีผู้แสดงความสนใจจะครอบครองบัตรทองนี้มาแล้วอย่างน้อย 250,000 คน 


ลุทนิค อ้างความสำเร็จนี้ในรายการพอตแคส “All-In Podcast” ของสหรัฐฯ เมื่อวานนี้ (23 มีนาคม) โดยกล่าวว่ามีมหาเศรษฐีมากกว่า 37 ล้านคนบนโลกที่สามารถซื้อบัตรทองนี้ได้ อีกทั้งเขายังอ้างคำพูดของทรัมป์ว่าสหรัฐฯ จะสามารถขายบัตรทองได้ทะลุ 1 ล้านใบ ขณะเดียวกันผู้ดำเนินรายการยังได้ถามลุทนิคถึงต้นกำเนิดไอเดียบัตรทองของทรัมป์ ซึ่งลุทนิคเผยว่าประธานาธิบดีทรัมป์ได้ไอเดียการขายบัตรทองมาจาก “จอห์น พอลสัน” มหาเศรษฐีและนักลงทุนชื่อดัง รวมไปถึงได้รับการสนับสนุนจากอีลอน มัสก์ ที่ในตอนนี้มัสก์กำลังพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อรองรับสำหรับบัตรทองโดยเฉพาะด้วย


ลุทนิค ยังกล่าวด้วยว่าในมุมมองของเขาถ้าหากเขาไม่ใช่คนอเมริกันและอาศัยอยู่ในประเทศอื่น เขาจะซื้อบัตรทองนี้มากถึง 6 ใบ โดยแบ่งให้ 1 ใบ เป็นของตัวเขาเอง, อีก 1 ใบ เป็นของภรรยา และ 4 ใบที่เหลือ เป็นของลูก ๆ ทั้งสี่คน แล้วพวกเขาทั้งหมดก็จะย้ายมาอยู่ในสหรัฐฯ ทันที และได้ย้ำว่าบัตรทองนี้สามารถเพิกถอนได้ หากผู้ถือสิทธิก่ออาชญากรรมหรือก่อภัยคุกคามที่ร้ายแรงในสหรัฐฯ

"บัตรทอง" ของ "ทรัมป์" ขายได้จริงยอดพันใบในวันเดียว รมว.พาณิชย์สหรัฐฯ อ้าง

สรุปข่าว

รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ อ้าง “บัตรทอง” ของทรัมป์สำหรับชาวต่างชาติที่ต้องการถือสิทธิ์อาศัยในสหรัฐฯ ที่มีราคา 5 ล้านดอลลาร์ มีคนซื้อแล้วกว่า 1 พันใบ ภายใน 1 วัน ตั้งเป้าขายได้ทะลุ 1 ล้านใบ

นโยบายบัตรทองของทรัมป์เป็นที่พูดถึงครั้งแรกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา บัตรทองดังกล่าวจะเข้ามาแทนที่วีซ่าประเภท EB-5 หรือ วีซ่าสำหรับนักลงทุนโดยมีจุดประสงค์เพื่อดึงดูดชาวต่างชาติที่ร่ำรวยที่ต้องการถือสิทธิ์ในการเข้ามาพักอาศัยในสหรัฐฯ อย่างถาวรและถูกกฎหมาย อีกทั้งยังเป็นการปูทางไปสู่การเป็นพลเมืองอเมริกันในอนาคตด้วย ซึ่งทรัมป์กล่าวไว้ว่าเขาจะขายบัตรทองให้กับชาวต่างชาติในราคาใบละ 5 ล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 170 ล้านบาท


ทรัมป์เชื่อว่าการขายบัตรทองให้ชาวต่างชาติที่ร่ำรวยจะช่วยเพิ่มการเติบโตทางเศรษฐกิจให้สหรัฐฯ เพราะชาวต่างชาติที่มีกำลังทรัพย์มากพอ ต้องการเข้ามาอยู่และลงทุนในสหรัฐฯ ซึ่งแน่นอนว่าจะเกิดการใช้จ่ายและสามารถนำเงินลงทุนจำนวนมากเข้าประเทศได้ อีกทั้งยังเพิ่มโอกาสให้เกิดการการจ้างงานชาวอเมริกัน รวมไปถึงชาวต่างชาติที่ร่ำรวยเหล่านี้ยังสามารถจ่ายภาษีจำนวนมากให้สหรัฐฯ ได้ด้วย

ที่มาข้อมูล : Financial Express

ที่มารูปภาพ : Reuters / Vecteezy

avatar

ฑิตยา เที่ยงกมล