สกุลเงินในเอเชีย อ่อนค่า ทรัมป์บังคับใช้ 2 เม.ย.

ทั้งนี้  Bloomberg รายงานว่า มาตรการภาษีรอบใหม่ของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งมีกำหนดประกาศใช้ในวันที่ 2 เมษายน 2568 อาจมีเป้าหมายเฉพาะกลุ่มมากกว่าที่เคยคาดไว้ในตอนแรก

Ken Cheung หัวหน้านักกลยุทธ์ด้านอัตราแลกเปลี่ยนของ Mizuho Bank กล่าวว่า “แม้รายงานล่าสุดจะชี้ว่าภาษีตอบโต้ของสหรัฐอาจแคบกว่าที่คาดไว้ แต่ค่าเงินในเอเชียยังคงอยู่ในภาวะซบเซา หลายประเทศในเอเชีย เช่น จีน เวียดนาม เกาหลีใต้ และอินเดีย มียอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐสูง ภาษีที่เจาะจงมากขึ้นจึงอาจสร้างแรงกดดันต่อค่าเงินของประเทศเหล่านี้”


สรุปข่าว

สกุลเงินในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ของเอเชียอ่อนค่าลง พร้อมกับตลาดหุ้นในภูมิภาค ขณะที่นักลงทุนประเมินผลกระทบจากมาตรการภาษีใหม่ของสหรัฐที่มีแนวโน้มจะพุ่งเป้าอย่างเฉพาะเจาะจงไปยังประเทศคู่ค้าในเอเชีย

นอกจากนี้ รัฐบาลในเอเชียบางประเทศเริ่มดำเนินมาตรการเพื่อลดผลกระทบ อย่างจีน โดยนายกรัฐมนตรี หลี่ เฉียง ระบุว่า จีนเตรียมพร้อมรับมือกับแรงสั่นสะเทือนเกินคาด ด้าน อินเดีย กำลังเร่งเจรจาข้อตกลงการค้ากับสหรัฐเพื่อป้องกันผลกระทบล่วงหน้า

ดัชนีค่าเงินเอเชียโดยรวมลดลง 0.1% ขณะที่ดัชนีหุ้นภูมิภาคอ่อนตัวลง 0.3% ในวันจันทร์ ความปั่นป่วนทางการเมืองฉุดลีรา-รูเปียห์ โดยค่าเงินลีราของตุรกียังคงเผชิญแรงกดดันอย่างหนัก จากความไม่แน่นอนทางการเมืองภายในประเทศ แม้หน่วยงานกำกับดูแลตลาดทุนจะออกมาตรการห้ามขายชอร์ตหุ้นทุกตัว และผ่อนคลายกฎซื้อหุ้นคืนเพื่อชะลอการร่วงของตลาด ส่วนค่าเงินลีราซื้อขายที่ระดับ 38.01 ลีราต่อดอลลาร์ ในช่วงเช้าวันจันทร์ (ตามเวลาเอเชีย) อ่อนค่าจากระดับ 37.73 ลีราต่อดอลลาร์เมื่อวันศุกร์


ด้านอินโดนีเซีย ตลาดหุ้นและค่าเงินรูเปียห์ปรับตัวลงต่อเนื่องในวันจันทร์ จากความกังวลต่อนโยบายใช้จ่ายแบบประชานิยมของประธานาธิบดีคนใหม่ ปราโบโว ซูเบียนโต ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังในระยะยาว

ที่มาข้อมูล : Bloomberg

ที่มารูปภาพ : TNN

avatar

ชาคร หนูคงใหม่

แท็กบทความ

ย่อโลกเศรษฐกิจ
สกุลเงินเอเซีย
เงินบาท
กลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่
มาตรการภาษีใหม่