
นายบุรินทร์ อดุลวัฒนะ กรรมการผู้จัดการ และ Chief Economist บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย กล่าวถึงภาพรวมเศรษฐกิจไทยขณะนี้ ว่าน่าเป็นห่วง โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทย หรือจีดีพีปีนี้เติบโตเพียงร้อยละ 2.4 แต่มีความเสี่ยงมากขึ้นที่จะทำให้จีดีพีไทยเติบโตต่ำกว่าที่ประเมินไว้ หลักๆมาจากสงครามการค้า
ดังนั้น ต้องหานโยบายที่เป็น Quick Wins ที่ทำให้เกิดผลได้รวดเร็ว ซึ่งการแก้หนี้ก็ถือว่าอยู่ในแผน และภายใต้เศรษฐกิจที่ชะลอตัวคนกลุ่มล่างมีปัญหาทั้งการจับจ่ายและชำระหนี้ จึงต้องหาทางกระตุ้นคนที่มีกำลังให้เกิดการใช้จ่ายมากขึ้น รวมถึงการกระตุ้นท่องเที่ยวให้ต่างชาติเข้ามาในไทยเพิ่มขึ้น เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า

สรุปข่าว
ด้านนางสาวณัฐพร ตรีรัตน์ศิริกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่าหากสหรัฐฯประกาศใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariff) ในต้นเดือนเมษายนนี้ และไทยโดนภาษีนำเข้า Reciprocal Tariff เพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 10 คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อจีดีพีลดลงร้อยละ 0.3 ซึ่งผลกระทบดังกล่าวได้รวมไว้ในการประมาณการจีดีพีปี 2568 ที่ร้อยละ 2.4 แล้ว
อย่างไรก็ตาม หากไทยโดนภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 25 คาดว่าจะส่งผลต่อจีดีพีเพิ่มขึ้นเป็นลดลงร้อยละ 0.6 และประมาณการการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปี 2568 ที่ปัจจุบันมองไว้ที่ร้อยละ 2.4 มีความเสี่ยงที่จะปรับตัวลดลงแต่จะยังอยู่ในระดับไม่ต่ำกว่าร้อยละ 2.0
นอกจากนี้ ทิศทางเศรษฐกิจไทยในครึ่งหลังของปี 2568 แทบจะไม่เติบโตเมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส (QoQ) จากผลกระทบสงครามการค้า ปัจจัยฐานที่สูงในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และแรงส่งทางเศรษฐกิจลดลง
สำหรับแนวโน้มสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ไทย นางสาวธัญญลักษณ์ วัชระชัยสุรพล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด บอกว่าเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัว แต่ส่วนหนึ่งเป็นการย้ายมาจากตลาดตราสารหนี้ ทำให้ทั้งปีนี้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังคงมุมมองว่าสินเชื่อจะโตไม่สูงที่ร้อยละ 0.6 โดยสินเชื่อเอสเอ็มอีและสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์น่าจะยังหดตัว สอดคล้องกับสถานการณ์ธุรกิจและอำนาจซื้อที่ไม่แน่นอน ขณะที่มาตรการ LTV ที่เพิ่งผ่อนคลายจะทำให้ประมาณการสินเชื่อบ้านปีนี้โตเพิ่มขึ้นได้อีกร้อยละ 0.1-0.2 จากประมาณการเดิมที่ร้อยละ 0.5

ณัฐพัชญ์ ทีฆโชติคุณานนท์