นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากรายงานตัวเลขการอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย ภายใต้ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 มีจำนวน 181 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 68 ในช่วง 2 เดือน ปี 2568 (มกราคม - กุมภาพันธ์) แบ่งเป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว 41 ราย และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 140 ราย เงินลงทุนรวม 35,277 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 33 และจ้างงานคนไทย 1,344 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 140 โดยชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุนสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น จีน สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา และ ฮ่องกง
นอกจากนี้ การลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC ของนักลงทุนต่างชาติ ในช่วง 2 เดือน มีจำนวน 57 ราย คิดเป็นร้อยละ 31 ของจำนวนนักลงทุนต่างชาติในไทย เพิ่มขึ้นร้อยละ 63 โดยมีมูลค่าการลงทุน 17,546 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 50 ของเงินลงทุนทั้งหมด เป็นนักลงทุนจากญี่ปุ่นมากที่สุด 19 ราย ลงทุน 8,096 ล้านบาท จีน 14 ราย ลงทุน 2,751 ล้านบาท สิงคโปร์ 8 ราย ลงทุน 2,191 ล้านบาท และประเทศอื่น ๆ อีก 16 ราย ลงทุน 4,508 ล้านบาท
สรุปข่าว
นางสาวศศิกานต์ กล่าวว่า การเข้ามาประกอบธุรกิจในอุตสาหกรรมข้างต้น มีส่วนช่วยในการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นองค์ความรู้เฉพาะด้านจากประเทศผู้เข้ามาลงทุนให้แก่คนไทย
ทั้งนี้ รัฐบาลมุ่งมั่นส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนที่สำคัญของภูมิภาค โดยเน้นการดึงดูดการลงทุนที่ช่วยยกระดับอุตสาหกรรมและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยในเวทีโลก ควบคู่ไปกับการสนับสนุนการถ่ายทอดเทคโนโลยีและองค์ความรู้ใหม่ ๆ ให้กับแรงงานไทย เพื่อเสริมสร้างโอกาสในการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน

ณัฐพัชญ์ ทีฆโชติคุณานนท์