ดร.อมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารสำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวในหัวข้อ “ทรัมป์ ป่วนโลกพลิกวิฤกติสู่โอกาส” ในงานสัมมนา “เจาะลึกสินทรัพย์ดาวรุ่ง รับ ”ทรัมป์“ ป่วนโลก ว่า ผลกระทบจากการดำเนินนโยบายด้านการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ว่า
เมื่อช่วง ทรัมป์ 1.0 สหรัฐฯ ประสบความสำเร็จในการลดขนาดการขาดดุลการค้าจากจีน จากขาดดุลการค้ากับจีนร้อยละ 40 ปัจจุบันลดเหลือร้อยละ 20 ทำให้ทรัมป์ 2.0 จึงนำมาตรการขึ้นภาษีมาใช้อีกครั้ง ซึ่งปัจจุบันไทยไม่ได้อยู่ใน TOP 10 ที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ โดยอยู่ในลำดับที่ 11
ดังนั้นหากปีนี้สหรัฐฯ ดำเนินมาตการภาษีในประเทศ TOP 10 ไทยก็ยังรอด แต่ก็ต้องจับตาวันที่ 2 เม.ย. นี้ ว่าสหรัฐฯ จะขึ้นภาษีอย่างไร
เพราะปัจจุบันไทยพึ่งพาการส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ ประมาณร้อยละ 20 หากมีการดำเนินมาตรการภาษี ผลกระทบก็อาจไม่รุนแรง โดยสินค้าที่ได้รับผลกระทบในระยะแรกจะเป็นอิเล็กทรอนิกส์ ยายยนต์ และ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ดังนั้นเรื่องสงครามการค้าก็ต้องเตรียมพร้อมรับมือไว้
สรุปข่าว
แต่ในอีกแง่ ดร. อมรเทพ มองว่า ไทยอาจได้รับผลบวกจากสงครามการค้า เช่น การช่วงชิงการส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ จากจีน ทั้งสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ และส่วนประกอบ
สำหรับเศรษฐกิจไทย ปัจจุบันอยู่ในช่วงที่เศรษฐกิจดีที่สุดแล้ว คาดว่าไตรมาส 1 ปี ปี 2568 จะเติบโตได้ร้อยละ 3.1 ขณะที่ทั้งปี 2568 คาดว่าจะเติบโตได้ ร้อยละ 2.7
อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้ช้าลงจากมาตรการทางภาษีของสหรัฐฯ กระทบความเชื่อมั่น การส่งออก และการผลิต
โดยในปี 2568 การส่งออก และการบริโภคในประเทศ จะยังเติบโตได้ แต่ต้องจับตาว่าการบริโภคอาจเติบโตได้ลดลง เนื่องจากการบริโภคในช่วงที่ผ่านมาเติบโตได้จากการท่องเที่ยว
ด้านอัตราดอกเบี้ยนโยบาย คาดว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้ง ครั้งละ ร้อยละ 0.25 ในช่วงการประชุมเดือน มิ.ย. และ ส.ค. 2568 จากระดับร้อยละ 2.00 ต่อปีในปัจจุบัน มาอยู่ที่ร้อยละ 1.50 ต่อปี
เนื่องจากเศรษฐกิจไทยเติบโตได้ช้ากว่าคาด การส่งออกที่มีโอกาสชะลอตัวลง เงินเฟ้อที่ไม่ได้เพิ่มขึ้นสูง โดยคาดว่าปี 2568 เงินเฟ้อไทยจะอยู่ที่ร้อยละ 1 ส่วนค่าเงินบาทคาดว่าในช่วงปลายปี 2568 จะอยู่ที่ 35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ

นันท์ชยา ชื่นวรสกุล