
ดาวโจนส์พุ่งกว่า 600 จุด นักลงทุนคลายกังวล หลังเฟดส่งสัญญาณบวก
วันนี้ ( 12 เม.ย. 68) ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ โดยดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้นกว่า 600 จุด หลังจากกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่เริ่มรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกได้ดีกว่าคาด และเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณสนับสนุนตลาด ช่วยคลายความกังวลของนักลงทุนที่เผชิญความผันผวนตลอดสัปดาห์

สรุปข่าว
ดัชนีตลาดหลักปิดบวกต่อเนื่อง
- ดาวโจนส์ปิดที่ 40,212.71 จุด เพิ่มขึ้น 619.05 จุด (+1.56%)
- S&P500 ปิดที่ 5,363.36 จุด เพิ่มขึ้น 95.31 จุด (+1.81%)
- Nasdaq ปิดที่ 16,724.46 จุด เพิ่มขึ้น 337.15 จุด (+2.06%)
ดัชนี S&P500 และดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นมากที่สุดรายสัปดาห์ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2566 ส่วน Nasdaq ทำสถิติรายสัปดาห์ดีที่สุดตั้งแต่พฤศจิกายน 2565
เฟดช่วยหนุนความเชื่อมั่นตลาด
ซูซาน คอลลินส์ ประธานเฟดสาขาบอสตัน ระบุว่า เฟดพร้อมเข้าแทรกแซงเพื่อให้ตลาดการเงินดำเนินไปอย่างราบรื่น ขณะที่จอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดนิวยอร์ก กล่าวย้ำว่า สหรัฐฯ ยังไม่เข้าสู่ภาวะ stagflation และเฟดจะดำเนินการป้องกัน
หุ้นกลุ่มวัสดุพื้นฐานและเทคโนโลยีในดัชนี S&P500 ปรับขึ้นมากที่สุดจากทั้ง 11 กลุ่มอุตสาหกรรม
ปัจจัยกดดัน: สงครามการค้าและภาษีนำเข้า
ความผันผวนของตลาดได้รับแรงกดดันจากความขัดแย้งด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน โดยจีนได้ตอบโต้การขึ้นภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้อัตราภาษีรวมพุ่งแตะ 145% ความคาดหวังเงินเฟ้อระยะสั้นของผู้บริโภคสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดตั้งแต่ปี 2524
ผลประกอบการธนาคารเริ่มต้นเชิงบวก
ธนาคารรายใหญ่ เช่น JPMorgan Chase, Morgan Stanley และ Wells Fargo รายงานผลกำไรไตรมาสแรกดีกว่าคาด อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงระมัดระวังต่อแนวโน้มเศรษฐกิจถดถอยจากข้อพิพาททางการค้า
ข้อมูลจาก LSEG คาดการณ์ว่ากำไรของบริษัทในดัชนี S&P500 จะเติบโต 8.0% ในไตรมาสแรก ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์เดิมที่ 12.2%
แนวโน้มตลาดและข้อมูลเศรษฐกิจ
Citi ปรับลดเป้าหมายดัชนี S&P500 สิ้นปีลงเหลือ 5,800 จุด จากเดิม 6,500 จุด โดยให้เหตุผลจากภาษีนำเข้าที่เพิ่มขึ้นและสัญญาณเศรษฐกิจชะลอตัว
ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมี.ค. ลดลง 0.4% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ อย่างไรก็ตาม รายงานอีกฉบับระบุว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ลดลง และการคาดการณ์เงินเฟ้อในอีก 1 ปีข้างหน้าเพิ่มขึ้นแตะ 6.7% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2524
ที่มาข้อมูล : ตลาดหุ้นนิวยอร์ก
ที่มารูปภาพ : AFP

ชญาภา ภักดีศรี