เงินบาทเช้านี้เปิดตลาด “ อ่อนค่าลงเล็กน้อย” ที่ระดับ  33.58 บาท/ดอลลาร์

แนวโน้มค่าเงินบาท และปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม (19 มีนาคม 2568)

ภาพรวมค่าเงินบาท

ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันที่ 19 มีนาคม 2568 ที่ระดับ 33.64 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงเล็กน้อย จากระดับปิดวันก่อนหน้าที่ 33.58 บาทต่อดอลลาร์ โดยเงินบาทมีการเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideways Up อยู่ในกรอบ 33.56-33.65 บาทต่อดอลลาร์ โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งได้รับอานิสงส์จากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ อาทิ ยอดผลผลิตอุตสาหกรรม (Industrial Production) เดือนกุมภาพันธ์ที่เติบโต +0.7% จากเดือนก่อนหน้า

เงินบาทเช้านี้เปิดตลาด “ อ่อนค่าลงเล็กน้อย” ที่ระดับ  33.58  บาท/ดอลลาร์

สรุปข่าว

เงินบาทเช้านี้เปิดตลาด “ อ่อนค่าลงเล็กน้อย” ที่ระดับ  33.58 บาท/ดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.50 - 33.80 บาท/ดอลลาร์

ปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าเงินบาท

1. ปัจจัยจากสหรัฐฯ
    ◦    ตลาดจับตาการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) โดยคาดว่าเฟดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50% เพื่อรอดูผลกระทบจากนโยบายของรัฐบาล Trump 2.0
    ◦    รายงานคาดการณ์เศรษฐกิจ (Summary of Economic Projections) และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ตลาดให้ความสนใจ ซึ่งอาจส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์เคลื่อนไหวผันผวน
2. ปัจจัยจากยุโรป
    ◦    สภา Bundestag ของเยอรมนี อนุมัติการปฏิรูปกฎเกณฑ์การกู้เงิน (Debt Brake) ทำให้เงินยูโรแข็งค่าขึ้นใกล้ระดับ 1.095 ดอลลาร์ต่อยูโร ซึ่งช่วยชะลอการอ่อนค่าของเงินบาท
    ◦    ตลาดจะรอติดตามถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งคาดว่า ECB อาจลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม 2 ครั้ง หรือรวม 50bps ภายในปีนี้
3. ปัจจัยจากเอเชีย
    ◦    ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) คาดว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0.50% เพื่อรอประเมินแนวโน้มค่าจ้างและเศรษฐกิจ แต่หากไม่มีสัญญาณชัดเจนเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเติม อาจกดดันให้เงินเยนอ่อนค่าต่อเนื่อง
    ◦    ธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) มีโอกาสสร้างความประหลาดใจให้ตลาดด้วยการลดอัตราดอกเบี้ย 25bps เนื่องจากเศรษฐกิจอินโดนีเซียมีสัญญาณชะลอตัวลง

ความผันผวนของค่าเงินบาทที่ต้องระวัง
    •    ผลการประชุม BOJ และ BI อาจสร้างแรงกดดันต่อค่าเงินฝั่งเอเชีย หาก BOJ ไม่ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยชัดเจน หรือหาก BI ลดดอกเบี้ยอย่างคาดไม่ถึง เงินบาทอาจได้รับผลกระทบในเชิงลบ
    •    ผลการประชุม FOMC ของเฟด ซึ่งจะทยอยรับรู้ในช่วง 01.00 น. ของเช้าวันที่ 21 มีนาคม คาดว่าจะทำให้เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ +/-0.30% ภายใน 30 นาทีหลังการประชุม
    •    แนวโน้มค่าเงินดอลลาร์และอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ มีผลต่อการตัดสินใจของนักลงทุน หากเฟดยังคงนโยบายการเงินแบบคุมเข้ม เงินบาทอาจอ่อนค่าต่อไป

สรุปแนวโน้มค่าเงินบาท

ในช่วง 24 ชั่วโมงข้างหน้า ค่าเงินบาทมีแนวโน้มแกว่งตัวในกรอบ 33.50 - 33.80 บาทต่อดอลลาร์ โดยมีปัจจัยที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด ได้แก่ ผลการประชุม BOJ, BI และ FOMC ซึ่งอาจทำให้ตลาดมีความผันผวนสูง นักลงทุนควรติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด และเตรียมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของตลาดการเงินโลก

ที่มาข้อมูล : ธนาคารกรุงไทย

ที่มารูปภาพ : Getty Images