เจาะกองทุนประกันสังคมสหรัฐฯ​ เสี่ยงล้มละลายเร็วกว่าไทย ดับสลายความฝันวัยเกษียณ ?

กองทุนอาจพลาดจ่ายเงินผู้ประกันตนในรอบ 90 ปี

ตั้งแต่โดนัลด์ ทรัมป์แต่งตั้ง “ลีแลน ลีห์ ดูแด็ก” เจ้าหน้าที่ระดับกลางของหน่วยงาน ให้ขึ้นมาเป็นรักษาหัวหน้าสำนักงานประกันสังคม ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ ผู้มากประสบการณ์หลายคนกำลังลาออก เพราะเขากำลังจะปิดหลายแผนก พร้อมข้อเสนอเกษียณก่อนกำหนด และเตือนพนักงานหลายคนว่า อาจจะมีการเลิกจ้างเกิดขึ้น 

อย่างไรก็ตาม แผนการปรับปรุงครั้งนี้ ยังขาดดารวางแผนเชิงกลยุทธ์ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดผลที่ตามมาอย่างร้ายแรงต่อหน่วยงาน จากการลดพนักงานอย่างรวดเร็ว โดยไม่คำนึงถึงว่า จะทำงานอย่างไร ให้มีประสิทธิภาพต่อจากนี้ และอาจทำให้สำนักงานประกันสังคมจ่ายเงินล่าช้าให้กับผู้ประกันตนในรอบ 90 ปี นับตั้งแต่วันก่อตั้ง 

พูดไปอาจไม่เห็นภาพว่า ผลกระทบของการลดจำนวนคนครั้งนี้ หน้าตาเป็นอย่างไร ผู้เชี่ยวชาญได้วิเคราะห์สถานการณ์ต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ ไว้ทั้งหมด 4 ข้อ

บทความจากสำนักข่าว CNN เผยว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นหลังจากนี้ คือ 

1.เกิดการจ่ายเงินล่าช้าให้กับผู้ประกันตนชาวอเมริกัน ราว 73 ล้านคน โดยเฉพาะวัยเกษียณ และผู้พิการที่ต้องพึ่งพาเงินเหล่านี้ ในการประทังชีวิตที่เหลืออยู่ 

2.ระยะเวลาในการพิจารณาคำร้องของผู้ประกันตนรายใหม่ และสวัสดิการผู้พิการอาจนานขึ้น 

3.ความไว้วางใจที่มีต่อกองทุนประกันสังคมลดลง เพราะตลอดระยะเวลาเกือบร้อยปี กองทุนไม่เคยจ่ายเงินล่าช้าแม้แต่ครั้งเดียว

4.ระบบอาจเกิดการหยุดชะงักมากขึ้น เนื่องจากกองทุนประกันสังคมยังคงพึ่งพาเทคโนโลยีสมัยเก่า หากพนักงานที่เชี่ยวชาญด้านนี้หายไป อาจจะทำให้ระบบล้มเหลว และทำให้ผู้ประกันตนเข้าถึงเงินตัวเองลำบาก 

เงินกองทุนบำนาญเหลือจ่ายได้อีกแค่ 12 ปี

ข่าวเรื่องการล่มสลายของกองทุนประกันสังคมสหรัฐฯ เป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงมาโดยตลอด เพราะมีการคาดการณ์ว่า กองทุนจะสามารถจ่ายเงินบำนาญ และสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ แบบ 100% ได้ไปจนถึงปี 2037 หรืออีกแค่ 12 ปีเท่านั้น ซึ่งเสี่ยงล้มละลายเร็วกว่าของไทย 

เมื่อถึงจุดนั้น กองทุนจะสามารถจ่ายสวัสดิการต่าง ๆ ให้ได้เพียงแค่ 76% เท่านั้น จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เกิดขึ้น เท่ากับว่า วัยเกษียณในช่วงเวลาดังกล่าว จะได้รับเงินน้อยลง 

สาเหตุที่ทำให้อนาคตของกองทุนประกันสังคมดูไม่แน่นอน เกิดขึ้นมาจากหลายปัจจัย ทั้ง ภาวะเศรษฐกิจถดถอย, อัตราการเกิดลดลง จำนวนคนวัยทำงานน้อยกว่าผู้สูงอายุ และผู้คนใช้ชีวิตยาวนานขึ้น 

สิ่งเหล่านี้ ทำให้เงินของกองทุนมีไม่เพียงพอต่อจำนวนประชากร ซึ่งตอนนี้ มีประชาชนที่ต้องพึ่งพิงเงินประกันสังคมมากกว่า 50 ล้านคน โดยได้รับเงินทุนจากวัยทำงานกว่า 150 ล้านคน ในรูปแบบของภาษีเงินเดือน 

หากต้องการจ่ายสวัสดิการให้ครบถ้วน รัฐบาลสหรัฐฯ อาจต้องดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือ นำหลายวิธีมาผสมผสานกัน เช่น ลดสวัสดิการทันที 13%, เพิ่มภาษีเงินเดือนจาก 12.4% เป็น 14.4% และหาลู่ทางอื่นในการหาเงินเข้ากองทุน เป็นต้น 

มองดูอเมริกา สะท้อนไทย เสี่ยงล่มสลายตามกัน

ย้อนกลับมาดูที่ประเทศไทย กองทุนประกันสังคมบ้านเรา ซึ่งมีสมาชิกกว่า 24 ล้านคน ก็มีปัญหาคล้าย ๆ กันกับที่อเมริกา 

โดยคาดว่า กองทุนประกันสังคมไทยเสี่ยงจะล้มละลายในอีก 30 ปีข้างหน้านี้ เนื่องจากเงินกองทุนบำนาญจะหมดลง หากไม่มีการปรับแก้อะไรเลย กระทบต่อคนรุ่นใหม่ที่ต้องจ่ายเงินหนักขึ้น แต่ต้องรับสวัสดิการน้อยลง และเสี่ยงให้คนเข้าระบบประกันสังคมน้อยลงไปอีก 

ตอนนี้ มีการเสนอทางออก ในการปรับการบริหารประกันสังคมแล้ว ได้แก่ 

1.รัฐบาล เสนอให้ รวม 3 กองทุนประกันสุขภาพรัฐ คือ ประกันสังคม บัตรทอง สิทธิข้าราชการ 

2.แยกประกันสังคมออกจากระบบราชการ ออกจากการอยู่ใต้กระทรวงแรงงาน เหมือนกองทุนบัตรทอง

ความฝันวัยเกษียณของเราอาจต้องยืดระยะเวลาไปอีก ขึ้นอยู่กับปัจจัยของแต่ละคน ซึ่งถ้าหากไม่มีการปรับเปลี่ยนอะไรเลย ประชาชนอาจจะต้องหันมาพึ่งพาตนเอง ด้วยการเก็บเงินยามเกษียณ หรือ อาจจะต้องทำงานไปจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต และวันนั้น ความเชื่อใจที่มีต่อกองทุนประกันสังคมก็จะหมดลงไป ไม่ว่าจะประเทศใดก็ตาม 

แหล่งข้อมูลอ้างอิง: 

https://edition.cnn.com/2025/03/08/politics/social-security-administration-staff-cuts/index.html

https://www.ssa.gov/policy/docs/ssb/v70n3/v70n3p111.html

https://www.forbes.com/sites/stevevernon/2024/03/21/will-social-security-run-out-of-money-if-so-when/

https://money.usnews.com/money/retirement/articles/this-is-how-trumps-social-security-layoffs-could-affect-your-benefits

https://www.tnnthailand.com/social/152459/

https://www.facebook.com/share/v/1XUo9ZGt2U/