
ระยะหลัง เรารู้จักการเดทที่ทำให้ความสัมพันธ์ Toxic มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการ Gaslighting ที่ควบคุมอีกฝ่ายทุกอย่าง หรือการกั๊ก ไม่ให้สถานะอีกฝ่ายชัดเจน และล่าสุด มีการนิยามคำใหม่ Floodlighting ว่าเป็นการออกเดทที่ทำให้ความสัมพันธ์ Toxic แบบใหม่ทีกำลังเป็นเทรนด์ด้วย

สรุปข่าว
Floodlighting เป็นคำที่หมายถึง การเปิดเผยที่มากเกินไป โดย บเรเน่ บราวน์ ผู้เขียนหนังสือ The Power of Vulnerability: Teachings of Authenticity, Connections and Courage เป็นคนแรกที่ให้คำนิยามของคำนี้ โดยเธอบอกว่า มันคือการเปิดเผยมากเกินไป ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเราแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับตัวเอง และชีวิตของเรากับคู่เดทอีกฝ่ายมากเกินไป เพื่อพยายามปกป้องตัวเองจากความเปราะบางที่แท้จริง
หากอธิบายพฤติกรรมของ Floodlighting นั้น สัญญาณคือ การเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวโดยละเอียดอย่างรวดเร็ว การแลกเปลี่ยนข้อมูลดังกล่าวอย่างไม่สมดุล คือเล่าแต่เรื่องตนเอง และเชื่อมโยงกับอารมณ์ที่รุนแรง ยกตัวอย่างเช่น หากเราพบคนจากแอพหาคู่ และเพียงแค่ 2-3 วันหลังการไปดื่มไปดริงค์กัน คุณก็เริ่มคุยเกี่ยวกับเรื่องวัยเด็ก การหย่าร้างของพ่อแม่ และความเจ็บปวดในชีวิตอื่นๆ และในขณะเดียวกันก็สังเกตุ และวิเคราะห์คู่เดทว่า พวกเขาจะสามารถจัดการเราได้หรือไม่ และเขาเต็มใจยอมรับแค่ไหน
สำหรับบางคน นี่อาจดูเหมือนเดทแรกทั่วไป เนื่องจากหลายคนรู้สึกว่าต้องรีบเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว และสร้างความกระทบกระเทือนทางจิตใจให้คนอื่นทราบ ซึ่งหลายคนมักทำไปโดยไม่รู้ตัว เพื่อปกปิดความเปราะบางของตัวเอง และเป็นเกราะกำบัง
เจสสิกา อัลเดอร์สัน ผู้เชี่ยวชาญแอพหาคู่ So Synced ได้แบ่งปันด้านมืดของพฤติกรรมนี้ ว่า “ “มันเกี่ยวข้องกับการเปิดเผยรายละเอียดส่วนตัวหลายๆ อย่างในคราวเดียว เพื่อทดสอบความใกล้ชิด เร่งความใกล้ชิด หรือดูว่าอีกฝ่ายสามารถ 'จัดการ' ส่วนเหล่านี้ในตัวคุณได้หรือไม่
ในแง่หนึ่ง ฉันมองว่านี่เป็นการบังคับเพื่อความมั่นใจมากกว่าจะเป็นกลวิธีที่จงใจหลอกลวง ในอีกแง่หนึ่ง ฉันเห็นว่าบางคนใช้สิ่งนี้เป็นวิธีเร่งความใกล้ชิดกับอีกฝ่าย”
แล้วทำไมมันถึงทำให้ความสัมพันธ์ Toxic หรือเป็นพิษได้ ?
Floodlighting ถูกมองว่าเป็นวิธีของคนโสด ที่กำลังมองหาอะไรที่จริงจัง และการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวอย่างลึกซึ้ง จึงเป็นกลอุบายที่มักใช้หลอกลวง หวังจะหลอกล่อคู่ครองที่มีศักยภาพด้วยข้อมูลส่วนตัวของพวกเขา เพื่อสร้างความเห็นอกเห็นใจ และสร้างความไว้วางใจที่ปลอม
อัลเดอร์สันยังเตือนว่าการให้ความสำคัญมากเกินไปในความสัมพันธ์อาจสร้างความไม่สมดุลระหว่างความสัมพันธ์ ทำให้ฝ่ายหนึ่งกลายเป็น “คนที่เปราะบาง” ในขณะที่อีกฝ่ายถูกบังคับให้กลายเป็น “ผู้ดูแลทางอารมณ์” และการต้องแบกรับปัญหาของคนรัก ที่อาจทำให้ผู้ดูแลที่ไม่รู้ตัวรู้สึกหมดไฟและมีภาระมากเกินไป ดังนั้นมันจึงถูกมองว่าเป็นความสัมพันธ์ที่ Toxic นั่นเอง
“หากใครสักคนให้ความสำคัญมากเกินไป อาจทำให้ฝ่ายที่รับผลกระทบรู้สึกเหนื่อยล้าหรือถึงขั้นหายใจไม่ออก” เธอกล่าว “การต้องเปิดเผยความรู้สึกและความรู้สึกที่เข้มข้นในช่วงเวลาสั้นๆ อาจส่งผลกระทบต่ออารมณ์ได้”
ที่มารูปภาพ : Envato

กรุณพร เชษฐพยัคฆ์