
หม่องชิตตู่ ตอบโต้ข้อกล่าวหา พร้อมเดินหน้าปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์เต็มกำลัง
ความเคลื่อนไหวในการแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ชายแดนไทย-เมียนมามีความคืบหน้าชัดเจนขึ้น เมื่อ พลตรีหม่องชิตตู่ ผู้นำกองกำลังพิทักษ์ชายแดน หรือ BGF ได้เปิดศูนย์บัญชาการที่เมืองเมียวดีพบสื่อมวลชนเป็นครั้งแรก เพื่ออธิบายข้อเท็จจริงและตอบข้อสงสัยต่างๆ โดยเฉพาะกรณีที่ฝ่ายค้านของไทยกำลังเรียกร้องให้ออกหมายจับเขาในข้อหาเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์
หม่องชิตตู่เล่าว่า เรื่องทั้งหมดเริ่มต้นในปี 2561 ตอนที่บริษัทหย่าไท้มาขอเช่าพื้นที่เพื่อพัฒนาโครงการ ซึ่งได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมายจากรัฐบาลเมียนมาที่กรุงเนปิดอว์ ทาง BGF จึงให้เช่าที่ดินในราคา 50,000-100,000 บาทต่อเอเคอร์ แต่หลังจากช่วงโควิด-19 กลับพบว่าผู้เช่าใช้พื้นที่ผิดวัตถุประสงค์ โดยหันไปทำธุรกิจหลอกลวงทางออนไลน์แทน
"ผมไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับพวกธุรกิจผิดกฎหมายพวกนี้เลย ผมแค่ให้เช่าที่ดินเท่านั้น"
หม่องชิตตู่ยืนยันเสียงหนักแน่น พร้อมบอกว่าเมื่อรู้เรื่องนี้ก็ได้สั่งให้เริ่มกวาดล้างทันทีตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
การปราบปรามครั้งนี้ครอบคลุมทุกพื้นที่สำคัญ ทั้งเคเคปาร์คและชเวก๊กโก่ ซึ่งมีรายงานว่าเป็นแหล่งที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้ดำเนินการ ตอนนี้จับผู้ต้องสงสัยได้แล้วกว่า 2,000 คน จากชาวต่างชาติในพื้นที่ทั้งหมดราว 70,000 คน ส่วนใหญ่เป็นคนจีน โดยจะเริ่มทยอยส่งตัวกลับบ้านผ่านสนามบินแม่สอดตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์นี้
แต่การทำงานก็ไม่ได้ราบรื่นนัก เพราะยังติดปัญหาการประสานงานกับหลายประเทศ อย่างกรณีคนอินโดนีเซีย 61 คน ที่ยังติดต่อสถานทูตไม่ได้ นอกจากนี้ยังมีผู้ต้องสงสัยจากญี่ปุ่น เวียดนาม อินเดีย และประเทศในแอฟริกา ที่ต้องดำเนินการส่งตัวกลับด้วย
ที่น่าสนใจคือ หม่องชิตตู่ได้ตั้งคำถามกลับไปที่ระบบตรวจสอบของทั้งไทยและเมียนมา โดยชี้ว่าคนต่างชาติพวกนี้เข้ามาด้วยวีซ่าไทยผ่านช่องทางปกติ "พวกเขาไม่ได้ตกลงมาจากฟ้า" เขาบอก พร้อมเน้นว่าทั้งสองประเทศต้องยอมรับว่ามีจุดบกพร่องในการตรวจสอบร่วมกัน

สรุปข่าว
หม่องชิตตู่ ยังยกตัวอย่างที่เขาเคยช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ไทยมาก่อน ทั้งช่วยตามหาลูกจ้างดาราไทยที่หายตัวไป และช่วยจับคนร้ายคดีฆาตกรรมที่ชลบุรีที่หนีมาทางชายแดน ซึ่งเขาให้ความร่วมมือจับตัวส่งให้ไทยเต็มที่
ตอนนี้ คนในพื้นที่กำลังเดือดร้อนจากมาตรการกดดันจากนานาชาติ โดยเฉพาะหลังนายหลิว จงอี ผู้แทนจีนไปเยือนเมียนมา ทำให้มีการตัดไฟและหยุดส่งน้ำมันจากพื้นที่ในของเมียนมามาเมียวดี ซึ่งกระทบชาวบ้านโดยตรง
หม่องชิตตู่จึงประกาศว่าจะเร่งกวาดล้างให้เสร็จภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้
"ผมจะพิสูจน์ให้เห็นว่าเราจริงจังกับการแก้ปัญหา เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชนและนานาชาติ"
พร้อมขอให้ทุกประเทศช่วยประสานงานผ่านสถานทูตเพื่อรับคนของตัวเองกลับไป
การปราบปรามครั้งนี้จึงเป็นเหมือนการพิสูจน์ตัวเองของหม่องชิตตู่ และอาจเป็นจุดเปลี่ยนในการแก้ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติที่ชายแดนไทย-เมียนมา ที่ต้องการความร่วมมือจากทุกฝ่ายอย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่แก้ปัญหาเฉพาะหน้าหรือโยนความรับผิดชอบไปมาเท่านั้น
ที่มาข้อมูล : TNN เรียบเรียง
ที่มารูปภาพ : ผู้สื่อข่าว จ.ตาก