![ตัดเงิน USAID กระทบสื่อ นักข่าวหลายพัน และสื่อหลายร้อยทั่วโลก ขาดเงินทุน และอาจปิดตัว](/static/2025/b09c4ede-6ff2-4116-8b23-b73be8fe16ab.webp)
จากการตัดงบประมาณโครงการช่วยเหลือ USAID ของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลังเข้ารับตำแหน่ง สร้างความกังวลให้กับวงการการแพทย์ เพราะคลีนิก และศูนย์สุขภาพหลายแห่งในพื้นที่เปราะบางทั่วโลกได้รับผลกระทบ ซึ่งก็เห็นผลมายังไทยแล้ว จากการปิดศูนย์การแพทย์ในค่ายผู้ลี้ภัย ในพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา
แต่ยังไม่เพียงเท่านั้น ล่าสุดองค์กรนักข่าวไร้พรมแดน (RSF) ยังเปิดเผยว่า การตัดเงินช่วยเหลือนี้ จะกระทบกับวงการสื่อ และนักข่าวหลายพันคน เพราะที่ผ่านมา USAID ได้ให้ทุนสนับสนุนนักข่าวกว่า 6,200 คน, สื่อที่ไม่ใช่ของรัฐ 707 แห่ง และองค์กรพัฒนาเอกชนที่เน้นด้านสื่อ 279 แห่งในกว่า 30 ประเทศในปี 2023
![ตัดเงิน USAID กระทบสื่อ นักข่าวหลายพัน และสื่อหลายร้อยทั่วโลก ขาดเงินทุน และอาจปิดตัว](/static/2025/b09c4ede-6ff2-4116-8b23-b73be8fe16ab.webp)
สรุปข่าว
ในรายงาน งบประมาณในปี 2025 ยังได้ จัดสรรเงิน 268.4 ล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุน สื่ออิสระและการไหลเวียนของข้อมูลอย่างเสรี ซึ่งปกติแล้วหน่วนงานที่ได้รับการสนับสนุน จะจัดฝึกอบรมและสนับสนุนเพื่อ “เสริมสร้างสื่ออิสระ” ด้วย
RSF ยังเน้นย้ำว่า USAID เป็นผู้บริจาคหลักให้กับสื่ออิสระในยูเครน ซึ่งสื่อ 9 ใน 10 แห่งต้องพึ่งพาเงินอุดหนุนจากต่างประเทศ ซึ่งในตอนนี้ยูเครนที่เจอกับสภาพสงคราม ทำให้ภูมิทัศน์สื่ออิสระซึ่งอ่อนแอลง โดยตอนนี้ สื่อของยูเครนหลายแห่งได้ประกาศระงับกิจกรรมและกำลังมองหาวิธีแก้ปัญหาอื่นๆ แล้ว
การตัดการช่วยเหลือนี้ ทำให้ทาง RSF มองว่า อาจเปิดประตูสู่แหล่งเงินทุนที่อาจส่งผลกระทบต่อความเป็นอิสระของบรรณาธิการ และในตอนนี้นอกจากยูเครนแล้ว สื่อในประเทศอื่นๆ อย่างเบลารุส หรืออิหร่าน ก็ประกาศถึงการได้รับผลกระทบ และหยุดกิจกรรมบางส่วนชั่วข้ามคือ
"เรามีบทความที่กำหนดไว้จนถึงสิ้นเดือนมกราคม แต่หลังจากนั้น หากเราไม่พบวิธีแก้ไข เราก็จะไม่สามารถเผยแพร่ได้อีกต่อไป" นักข่าวจากสื่อเบลารุสที่ลี้ภัยให้สัมภาษณ์
สื่อเหล่านี้ เป็นนักข่าวอิสระ และมักทำงานอย่างการตรวจสอบความโปร่งใสของการเลือกตั้งในประเทศต่างๆ ไปถึงประเด็นเรื่องเสรีภาพ และการตรวจสอบรัฐบาลในหลายประเทศที่ยังคงมีความเป็นเผด็จการ ซึ่งเชื่อว่า การลดเงิน จะส่งผลต่อเสรีภาพสื่อ และการส่งเสริมประชาธิปไตยทั่วโลก
ล่าสุดเว็บไซต์ของ USAID ระบุว่า ตั้งแต่เที่ยงคืนวันศุกร์ที่ 7 ก.พ. 2568 เป็นต้นไป บุคลากรที่ USAID จ้างโดยตรงทั้งหมดจะถูกพักงานทั่วโลก ยกเว้นบุคลากรที่มีบทบาทสำคัญต่อภารกิจ ผู้นำหลัก และโครงการที่มีข้อกำหนดพิเศษ โดยเชื่อว่าจากพนังงานกว่า 1 หมื่นคนทั่วโลก จะถูกลดเหลือเพียงไม่ถึง 300 คนเท่านั้น