ซาแซงแฟนคืออะไร ? เหตุการณ์แบบไหนเรียกซาแซงแฟน ?
คำว่าซาแซง เป็นคำศัพท์ที่คุ้นเคยกันดีในกลุ่มติ่งเกาหลี หรือแฟนคลับ K-Pop มาอย่างยาวนาน แต่เมื่อเร็วๆ นี้ จากเคสนักร้องดังท่านหนึ่ง เปิดเผยบนเวทีว่าตน และภรรยาถูกคุกคาม จนทำให้คนไทยพูดถึงคำๆ นี้ และนำมาใช้กันมากขึ้น แต่ไปๆ มาๆ ดราม่าที่ลากยาวนี้ กลับพลิกไปมา จนอาจจะไม่ได้เรียกว่าซาแซงแฟนแล้ว แล้วถ้าอย่างนั้น เคสซาแซงคือแบบไหน ? เหตุการณ์คุกคามอย่างไร จึงเรียกว่า ซาแซง
ซาแซง เป็นคำภาษาเกาหลี มาจากคำว่า ซาแซงฮวัล (사생활) ที่แปลว่าชีวิตส่วนตัว บวกกับคำว่าแฟน
(팬) ที่แปลว่าแฟนคลับ ซึ่งความหมายก็คือ แฟนคลับที่คลั่งไคล้ศิลปิน จนมีพฤติกรรมคุกคามชีวิตส่วนตัวศิลปิน
กิจกรรมทั่วๆ ไปของแฟนๆ คือการไปคอนเสิร์ต ตามซื้อสินค้า อัลบั้มเพลง เข้าแฟนไซต์ตามกฎระเบียบ และอาจจะมีตามไปส่งแฟนคลับตามสถานที่อย่างสนามบิน หรือที่อัดรายการบ้าง แต่การกระทำของซาแซงคือมากไปกว่านั้น คือพยายามจะเข้าไปในพื้นที่ส่วนตัว ในชีวิตในส่วนที่ไม่ได้เป็นศิลปินของพวกเขา
สรุปข่าว
ต้นกำเนิดซาแซงแฟน
ในวงการ K-Pop คำว่าซาแซงนี้ก็เกิดขึ้น พร้อมๆ กับการเกิดของกระแสฮัลยู หรือ K-Pop ไอดอล โดยมีการว่ากันว่า แนวคิดเรื่องซาแซง เริ่มเกิดขึ้นในช่วงทศวรรษ 1970 ที่ดาราหลายคนออกจากวงการ และแต่งงานกับคนธรรมดา ทำให้เชื่อว่า ความคิดเรื่องชีวิตส่วนตัวของดารา ศิลปินเริ่มเกิดขึ้นในช่วงนี้ และแฟนๆ ก็เริ่มเชื่อว่าวันหนึ่งพวกเขาอาจจะมีส่วนในชีวิตส่วนตัวของคนดังได้
แต่จุดที่เหมือนจุดเริ่มต้นของซาแซงแฟนจริงๆ คือช่วงทศวรรษ 1990 โดยคิม ซองซึ นักวิจารณ์ด้านนวัฒนธรรมป็อปมองว่า ปัจจัยสำคัญในการเกิดขึ้นของแฟนด้อมสุดโต่งอย่างซาแซงแฟนในปัจจุบัน คือวง ‘Seo Taiji and Boys’ วงบอยกรุ๊ปที่โด่งดังมาในเกาหลีในยุค 90
ตามที่ผู้จัดการของวง Seo Taiji and Boys เล่านั้น ซอแทจิ เคยถูกแฟนคลับปีนข้ามกำแพงบ้านของเขาในย่านยอนฮีดง และเข้ามาในตัวบ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะที่เขาอยู่ในบ้านตามลำพัง ต้มรามยอน และกินมัน ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้ซอแทจิช็อค จนไม่รู้จะจัดการอย่างไร
เคสซาแซงแฟน การคลั่งไคล้จนกลายเป็นคุกคาม
ภายหลังยุคของวง Seo Taiji and Boys ซาแซงแฟน และพฤติกรรมน่าขนลุกยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เมื่อไม่นานมานี้ คิมแจจุง อดีตสมาชิกวงดงบังชินกิ และ JYJ เพิ่งเปิดเผยในรายการ Midnight Ghost Stories ว่าสำหรับเขา เจอเรื่องของคนที่น่ากลัวกว่าผี คือการถูก ซาแซงแฟนคุกคามมาตั้งแต่เดบิวต์ เป็นเวลาตลอด 20 ปี
เขาเล่าว่า เขาเคยตื่นข้ึนมาเจอซาแซงแฟนกำลังนั่งจับมือเขา “มันไม่ใช่แค่จับมือเฉยๆนะครับ มีการจูบด้วย” แจจุงเล่า ทั้งยังบอกอีกว่า เขายังเคยตื่นแล้วเห็นผู้หญิงนอนอยู่บนตัวเขา ซึ่งตอนแรกเขาเข้าใจว่าเป็นความฝัน จึงหลับต่อ แต่พอลืมตาอีกครั้งก็พบว่า เป็นเรื่องจริง และนี่คือการบุกรุกบ้านของเขา
แจจุงยังเคยแจ้งตำรวจจับซาแซงคนหนึ่ง ที่มากดกริ่งหน้าบ้านของเขาในทุกๆ วัน ซึ่งเมื่อตำรวจสอบสวน ซาแซงแฟนคนนั้นก็ได้ตอบว่า เธอเพียงต้องการสัมผัสใกล้ชิดแจจุง ผ่านการกดกริ่งอันเดียวกับที่เขาเคยกด ซึ่งการถูกคุกคามที่มากมายนั้น ทำให้เขารู้สึกทุกข์ใจจนอยากตายเลยด้วย
นอกจากเรื่องขนลุกของแจจุงแล้ว ยังมีเคสที่ อ๊ก แทคยอน ไอดอลจากวง 2PM เล่าว่า มีซาแซงส่งผ้าอนามัยใช้แล้วมาให้เขาพร้อมจดหมายที่เขียนด้วยเลือดว่า ‘คุณอยู่ไม่ได้หรอกถ้าไม่มีฉัน’ ซึ่งภายหลังซาแซงแฟนนั้นถูกจับได้ และกล่าวขอโทษ แต่เธอก็ปฏิเสธว่าไม่ใช่ซาแซงแฟน เพียงแค่คลั่งไคล้เขามากเกินไปเท่านั้น
กรณีการตามหาเบอร์โทรศัพท์ส่วนตัว และโทรไปหาศิลปิน ก็เป็นการคุกคามเช่นกัน และไอดอลหลายคนก็เจอกับเหตุการณ์นี้ หนึ่งในนั้นคือโอ เซฮุน วง EXO ที่เคยเปิดเผยเรื่อนี้ในไลฟ์สดผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวของเขา ซึ่งระหว่างการไลฟ์ มีซาแซงแฟนได้โทรเข้ามาหาเขา จนเขาต้องพูดว่า "ได้โปรดอย่าโทรมาอีกเลย"
เขาบอกว่า เคยได้รับสายประมาณ 100 สายต่อวัน แต่ครั้งนี้เขาตั้งใจที่จะไม่เปลี่ยนเบอร์ เพราะแม้จะเปลี่ยนเบอร์กี่ครั้ง ก็ยังมีสายเข้ามาอีก “นั่นยิ่งสร้างความยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ดังนั้นผมจึงไม่เปลี่ยนมัน” เซฮุนกล่าว ซึ่งนอกจากเซฮุนแล้ว สมาชิกวง EXO ต่างก็มีช่วงเวลายากลำบาก ที่ถูกซาแซงแฟนติดตามด้วย
นอกจากไอดอลชายแล้ว ไอดอลหญิงเองก็โดนซาแซงแฟนติดตามเช่นกัน โดย อิม นายอน วง TWICE เป็นหนึ่งไอดอล ที่โดนซาแซงชาวเยอรมัน ที่มีชื่อบัญชี @Josh1994 ติดตาม และคุกคามมาตลอด ตั้งแต่ปลายปี 2019 โดยเขาทั้งพยายามเข้าใกล้ เดินทางร่วมไฟลท์บิน เดินทางไปที่ตึกต้นสังกัดหลายครั้ง เขายังโพสต์เนื้อหาต่างๆ เกี่ยวกับนายอนที่น่าขนลุก โดยครั้งหนึ่งเขาขู่ว่า จะลาโลกนี้พร้อมๆ กับนายอน หากเธอยังไม่สนใจเขาด้วย
ทาง JYP Entertainment ซึ่งเป็นต้นสังกัดของ Twice ได้ยื่นฟ้องเขา และขอให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองระงับการเข้าเกาหลีของเขาในช่วงหนึ่ง แต่ถึงอย่างนั้นการแบนก็ถูกยกเลิกไป ซึ่งต้นสังกัดก็ได้ประกาศว่าจะเพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยมากขึ้น
และกรณีซาแซงแฟนที่เกิดขึ้นไม่นานมานี้ จนศิลปินได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยไปด้วยนั้น คือกรณีที่ คิม ซอนอู สมาชิกวง THE BOYZ ถูกซาแซงที่ซ่อนตัวอยู่ในบันไดฉุกเฉินเข้ามาหา ระหว่างที่เขาออกจากลิฟต์ และกำลังจะเปิดประตูห้องพัก หลังรู้สึกถูกคุกคาม
ซอนอูรีบแจ้งทีมงานในทันที ซึ่งทีมงานกับซอนอูได้พยายามจับกุมแฟนที่บุกรุก และส่งตัวให้ตำรวจ แต่เกิดการขัดขืน และพยายามหลบหนี จนทำให้ซอนอู และทีมงานถูกโจมตี จนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่สุดท้าย บุคคลดังกล่าวก็ถูกจับกุมในข้อหาบุกรุกและทำร้ายร่างกาย
ปัญหาที่กฎหมายก็ยังแก้ไขไม่ได้
ซาแซงแฟนเป็นปัญหาเรื้อรังในวงการบันเทิงเกาหลีมายาวนาน แต่ปัจจุบัน ก็ยังไม่มีวิธีการที่ชัดเจนในการลงโทษ แต่ละเคสจะเป็นการใช้กฎหมายที่เหมาะสมตามแต่ละกรณี
แต่การลงโทษส่วนใหญ่นั้นก็ยังไม่เพียงพอ เมื่อเทียบกับความทุกข์ทรมานของเหยื่อ
อย่างกรณีของนายอน วง TWICE นั้น ซาแซงแฟน ทำเพียงเฝ้าติดตาม เดินเตร่ไปรอบๆ บ้าน แต่ยังไม่ได้ทำการบุกรุก ดังนั้นจึงยากที่จะตั้งข้อหาที่หนักกว่าคือ 'บุกรุก' แทนที่จะเป็นอาชญากรรมเล็กน้อย สิ่งที่ทำได้คือการยอมรับ และปรับเงินไม่เกิน 100,000 วอนเท่านั้น
ทั้งสำหรับการสตอกกิ้ง หรือสะกดรอยนั้น เคยมีโทษปรับเพียงระหว่าง 1.5 - 3 ล้านวอน ( 39,000 - 78,000 บาท ) เท่านั้น จึงมีการเรียกร้องกฎหมายลงโทษการสะกดรอย และการลงโทษซาแซงแฟนมากมายขึ้น เพราะปัจจุบัน โทษสำหรับการปัสสาวะในที่สาธารณะนั้น ก็ยังคงร้ายแรงกว่าด้วย
ที่มาข้อมูล : ทำข่าว