เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างเครื่องบินขับไล่ Dassault Rafale และเครื่องบินขับไล่ล่องหน F-35 Lightning II

เครื่องบินขับไล่ Dassault Rafale จากฝรั่งเศส และเครื่องบินขับไล่ล่องหน F-35 Lightning II ของสหรัฐอเมริกา ต่างเป็นเครื่องบินยุคที่ 4.5 และ 5 ตามลำดับ มันถูกออกแบบให้ตอบโจทย์การสู้รบในยุคใหม่ แต่มีแนวคิดและจุดเด่นแตกต่างกันอย่างชัดเจน

ปรัชญาการออกแบบและพัฒนา

เครื่องบินขับไล่ Dassault Rafale เป็นเครื่องบินขับไล่อเนกประสงค์ (Omnirole Fighter) ที่ฝรั่งเศสออกแบบให้รองรับภารกิจทุกรูปแบบในลำเดียว ไม่ว่าจะเป็นโจมตีภาคพื้นดิน ต่อสู้ทางอากาศ สกัดกั้น หรือลาดตระเวน โดยเน้นความคล่องตัวสูง การใช้เรดาร์และระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำเพื่อรอดพ้นจากการตรวจจับ และรองรับการปฏิบัติการจากเรือบรรทุกเครื่องบิน

ในขณะที่เครื่องบินขับไล่ล่องหน F-35 Lightning II พัฒนาโดย Lockheed Martin สหรัฐอเมริกา เป็นเครื่องบินขับไล่ล่องหนยุคที่ 5 ที่ออกแบบด้วยแนวคิด "Stealth First" ให้สามารถล่องหนต่อเรดาร์ของศัตรู พร้อมระบบตรวจจับและประมวลผลขั้นสูง ทำหน้าที่เป็นศูนย์บัญชาการบินย่อยกลางสนามรบ (Sensor Fusion) โดยเน้นการแทรกซึมเข้าโจมตีในพื้นที่ป้องกันหนาแน่น โจมตีจากระยะไกล สามารถเลือกการรบระยะประชิด (Dogfight)  ก็ได้หากจำเป็น

สมรรถนะการบิน

Rafale มีความเร็วสูงสุดถึง Mach 1.8 ความคล่องตัวในการรบระยะประชิด (Dogfight) ดีเยี่ยม ด้วยรูปทรง Delta Wing และ Canard ช่วยให้เลี้ยวได้ฉับพลันและรักษาสมดุลขณะทำมุมปะทะสูง

ในขณะที่ F-35 Lightning II มีความเร็วสูงสุดประมาณ Mach 1.6 น้อยกว่า แต่มีจุดเด่น คือ การออกแบบให้มี RCS (Radar Cross Section) หรือการตรวจพบโดยเรดาร์ต่ำมาก และติดตั้งเซ็นเซอร์รอบทิศทาง 360 องศา เพื่อใช้ตรวจจับเป้าหมายและคุกคาม ทำให้สามารถเลือกไม่ปะทะประชิด แต่ใช้ขีปนาวุธนำวิถีระยะไกลโจมตีศัตรูก่อน 

เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างเครื่องบินขับไล่ Dassault Rafale และเครื่องบินขับไล่ล่องหน F-35 Lightning II

สรุปข่าว

เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างเครื่องบินขับไล่ Dassault Rafale และเครื่องบินขับไล่ล่องหน F-35 Lightning II ปรัชญาการออกแบบและพัฒนา เทคโนโลยีอาวุธ การปะทะแบบ 1 ต่อ 1 บนอากาศ

เทคโนโลยีอาวุธ

เครื่องบินขับไล่ Dassault Rafale ใช้เรดาร์ AESA รุ่น RBE2-AA ระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ Spectra ที่ขึ้นชื่อว่ามีประสิทธิภาพสูงมาก สามารถรบกวนสัญญาณและหลบหลีกขีปนาวุธศัตรูได้ดี ติดอาวุธได้หลากหลาย เช่น ขีปนาวุธอากาศสู่อากาศ MICA, Meteor และขีปนาวุธโจมตีภาคพื้น Exocet

ในขณะที่เครื่องบินขับไล่ล่องหน F-35 Lightning II ใช้เรดาร์ AN/APG-81 AESA มีระบบ DAS (Distributed Aperture System) ให้การรับรู้สถานการณ์รอบตัวแบบ Real-time และระบบเชื่อมโยงข้อมูลกับเครือข่ายรบขั้นสูง อาวุธหลักคือ AIM-120 AMRAAM, AIM-9X รวมถึงระเบิดนำวิถีความแม่นยำสูง โดย F-35 สามารถเก็บอาวุธภายในลำตัวเพื่อลดการสะท้อนเรดาร์

การปะทะแบบ 1 ต่อ 1 บนอากาศ

การเผชิญหน้ากันระหว่างเครื่องบินขับไล่ Dassault Rafale ขับไล่อเนกประสงค์จากฝรั่งเศส และ F-35 Lightning II ขับไล่ล่องหนยุคที่ 5 จากสหรัฐอเมริกา ถือเป็นการต่อสู้ระหว่างสองแนวคิดการออกแบบที่แตกต่างชัดเจน โดยเป็นความคล่องตัวและความยืดหยุ่นของเครื่องบินขับไล่ Dassault Rafale ปะทะเทคโนโลยีล่องหนและสงครามเครือข่ายของเครื่องบินขับไล่ล่องหน F-35 Lightning II ซึ่งผลของการต่อสู้นั้นขึ้นอยู่กับบริบทและเงื่อนไขในสนามรบเป็นสำคัญ

การต่อสู้จากระยะไกลอาจต้องยกให้เครื่องบินขับไล่ล่องหน F-35 Lightning II ซึ่งสามารถตรวจพบเครื่องบินขับไล่ Dassault Rafale และชิงโจมตีจากระยะไกลได้ก่อน โดยใช้ขีปนาวุธ AIM-120 AMRAAM ยิงจากระยะไกล ในขณะที่เครื่องบินขับไล่ Dassault Rafale ยังไม่รู้ตัว 

แต่หากการโจมตีจากระยไกลไม่สำเร็จ และเครื่องบินขับไล่ Dassault Rafale รู้ตัวและบินเข้าต่อสู้ในระยะประชิด (Dogfight) สถานการณ์จะเปลี่ยนทันที เพราะ เครื่องบินขับไล่ Dassault Rafale มีสมรรถนะทางอากาศดีเยี่ยม ว่องไว คล่องตัว และทำมุมปะทะได้สูงกว่าเครื่องบินขับไล่ล่องหน F-35 Lightning II นอกจากนี้เครื่องบินขับไล่ล่องหน F-35 Lightning II ยังเสียเปรียบเรื่องแรงขับและอัตราการเลี้ยว (Turn Rate) เพื่อปรับมุมการยิงและต่อสู้ในระยะประชิด 

รัฐบาล NATO ไม่มั่นใจเครื่องบินขับไล่ล่องหน F-35 Lightning II ของสหรัฐ หลัง "ทรัมป์" รับตำแหน่ง

หลังการเข้ารับตำแหน่งของ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนที่ 47 หลายประเทศสมาชิกกลุ่ม NATO เริ่มแสดงความกังวลต่อ โครงการเครื่องบินขับไล่ล่องหน F-35 Lightning II ซึ่งหลายชาติในยุโรปลงทุนมหาศาลหวังให้เป็นกระดูกสันหลังทางอากาศของตนในศตวรรษที่ 21

แต่สหรัฐอเมริกาวันนี้อาจไม่เหมือนเดิม โดยเฉพาะในยุคทรัมป์ได้แสดงท่าทีชัดเจนว่าพร้อม "ต่อรองใหม่" ทุกข้อตกลงทางทหาร หากมองว่าอเมริกาเสียเปรียบหรือไม่คุ้มค่า นโยบาย "America First" ที่ทรัมป์ยึดถือ ทำให้หลายประเทศหวั่นวิตกว่าเครื่องบินขับไล่ล่องหน F-35 Lightning II อาจกลายเป็นเครื่องมือทางการเมืองและเศรษฐกิจของวอชิงตัน มากกว่าจะเป็นความร่วมมือด้านความมั่นคงที่เท่าเทียม

รัฐบาลยุโรปหลายชาติ เช่น เยอรมนี ฝรั่งเศส และแม้แต่อิตาลี ต่างเริ่มตั้งคำถามถึงความเสี่ยงในการพึ่งพา ระบบซอฟต์แวร์และข้อมูลของเครื่องบินขับไล่ล่องหน F-35 Lightning II ที่ถูกควบคุมโดยอเมริกาเกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ระบบ ALIS (Autonomic Logistics Information System) ซึ่งใช้ติดตามสถานะและบำรุงรักษาเครื่องแบบเรียลไทม์ ไปจนถึง ซอฟต์แวร์ควบคุมอาวุธ ที่ต้องอัปเดตจากสหรัฐฯ เท่านั้น

โดยมีความกลัวที่ว่า "ในอนาคต หากเกิดความขัดแย้งกับสหรัฐฯ หรือการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในวอชิงตัน" เครื่องบินขับไล่ล่องหน F-35 Lightning II ที่ซื้อมาแพงมหาศาลอาจกลายเป็นแค่ "เศษเหล็กบินไม่ได้" เพราะถูกจำกัดหรือปิดกั้นซอฟต์แวร์จากระยะไกล เป็นประเด็นร้อนที่ทำให้หลายประเทศเริ่มมองหา "ทางเลือกสำรอง"


ที่มาข้อมูล : Lockheed Martin

ที่มารูปภาพ : Lockheed Martin, Wikipedia

avatar

พีรพรรธน์ เชื้อจีน