ญี่ปุ่นสร้าง“โดรนแมลง” ดมกลิ่น ค้นหาได้อัตโนมัติ หวังอนาคตใช้เป็นโดรนกู้ภัย

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยชินชู และมหาวิทยาลัยชิบะ ประเทศญี่ปุ่น ร่วมกันพัฒนา “โดรนแมลง” (Insect Drone) สามารถดมกลิ่นหาสิ่งมีชีวิต หวังใช้ในการค้นหาและกู้ภัย

รองศาสตราจารย์ ไดโกะ เทรุสึกิ (Daigo Terutsuki) วัย 36 ปี นักวิจัยจากคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสิ่งทอจากมหาวิทยาลัยชินชูได้ศึกษาเกี่ยวกับ “ผีเสื้อมวนไหม” ที่ตัวผู้สามารถจะค้นหาตัวเมียได้ ด้วยการใช้ “หนวด” เพื่อตรวจจับฟีโรโมนที่ตัวเมียปล่อยออกมา

โดยจากการวิจัยรองศาสตราจารย์ ไดโกะ เทรุสึกิ ได้ทำการตัดหนวดจากผีเสื้อมวนไหมมาทำการเชื่อมเข้ากับอิเล็กโทรด เพื่อทำให้กลายเป็นเซ็นเซอร์ตรวจจับกลิ่นบนโดรนขนาดเล็ก (10 เซนติเมตร)

ญี่ปุ่นสร้าง“โดรนแมลง”  ดมกลิ่น ค้นหาได้อัตโนมัติ หวังอนาคตใช้เป็นโดรนกู้ภัย

สรุปข่าว

นักวิจัยญี่ปุ่นพัฒนา “โดรนแมลง” ใช้หนวดผีเสื้อมวนไหมเป็นเซ็นเซอร์ดมกลิ่น เพื่อตามหาสิ่งมีชีวิตในการค้นหาและกู้ภัย ปัจจุบันกำลังพัฒนาต่อให้ใช้หนวดยุงตรวจจับกลิ่นมนุษย์ได้แม่นยำยิ่งขึ้น

กลิ่นหรือฟีโรโมนที่ถูกจับได้จากหนวดผีเสื้อจะถูกนำเอามาแปลงเป็นสัญญาณไฟฟ้า ทำให้โดรนสามารถบินไปยังแหล่งฟีโรโมนได้โดยอัตโนมัติ อย่างไรก็ตาม เสาอากาศนี้จะทำใช้งานได้ประมาณ 5 ชั่วโมง หลังจากตัดออกมาจากตัวผีเสื้อเท่านั้น

ก่อนหน้านี้ ในปี 2021 รองศาสตราจารย์ ไดโกะ เทรุสึกิ สามารถสร้าง “โดรนแมลง” ขึ้นมาได้สำเร็จ แต่มีระยะในการค้นหาเพียง 2 เมตร โดยตัวโดรนจะสามารถหาทางไปยังแหล่งที่มาของกลิ่นหรือฟีโรโมนได้โดยอัตโนมัติ

ปัจจุบันรองศาสตราจารย์ ไดโกะ เทรุสึกิ ได้ทำงานร่วมกับนักวิจัยผู้เชี่ยวชาญด้านกลไกการบินของแมลงจากมหาวิทยาลัยชิบะ ประเทศญี่ปุ่น เพื่อพัฒนาโดรนแมลงรุ่นใหม่ ให้ค้นหาได้ไกลขึ้นจาก 2 เมตร ไปเป็น 5 เมตร

โดยทีมนักวิจัยมองว่า เมื่อผีเสื้อมวนไหมกระพือปีก พวกมันจะสร้างกระแสลมที่ส่งฟีโรโมนไปที่เสาอากาศ จึงได้ปรับแต่งใบพัดโดรนให้สามารถปล่อยกลิ่นออกไปยังเซ็นเซอร์ด้วย

และทีมนักวิจัยยังให้ความสนใจกับพฤติกรรมของแมลงที่หยุดกลางอากาศซ้ำ จึงได้ออกแบบให้โดรนไม่บินเป็นเส้นตรง แต่หยุดกลางอากาศเป็นระยะ ๆ และหมุน 120 องศาทุกครั้ง เพื่อให้สามารถตรวจจับแหล่งที่มาของกลิ่นได้แม่นยำยิ่งขึ้น

ณ ตอนนี้ทางทีมนักวิจัยกำลังเร่งพัฒนาเซนเซอร์ ที่เปลี่ยนจากหนวดของผีเสื้อมาเป็นหนวดของยุงแทน เพื่อให้สามารถตรวจจับกลิ่นของมนุษย์ได้ และตั้งเป้าให้มันกลายเป็นนวัฒกรรมที่จะใช้ในการกู้ภัยในอนาคต

ที่มาข้อมูล : Shinshu University / Daigo Terutsuki

ที่มารูปภาพ : Shinshu University / Daigo Terutsuki

avatar

Torsakul Chatchavankijkul