คำมั่นสัญญาของทรัมป์ที่มีต่อชุมชนคริปโตก่อนการประชุมใหญ่คริปโตที่ทำเนียบขาว 7 มีนาคมนี้

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ให้คำมั่นสัญญาหลายประการต่อชุมชนคริปโต โดยเฉพาะในช่วงการหาเสียงและหลังเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยที่ 2 ในปี 2025 ซึ่งสะท้อนถึงจุดยืนที่สนับสนุนวงการสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างชัดเจน โดยทรัมป์ไ้ด้ประกาศคำมั่นสัญญาเอาไว้ในการประชุม Bitcoin 2024 ที่เมืองแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี 

ในวันที่ 7 มีนาคมนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมจัดประชุมใหญ่คริปโตในสหรัฐอเมริกาที่ทำเนียบขาว ทำให้ชุมชนคริปโตทั่วโลกจับตาการประชุมครั้งนี้เป็นอย่างมาก และเริ่มทบทวนคำมั่นสัญญาที่โดนัลด์ ทรัมป์ เคยให้เอาไว้กับชุมชนคริปโตในช่วงก่อนเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

1. การจัดตั้งคลังคริปโตเชิงยุทธศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา

ในตอนนั้นทรัมป์ประกาศว่าหากได้รับเลือกตั้ง เขาจะทำให้รัฐบาลกลางสหรัฐฯ คงการถือครอง Bitcoin ที่ได้จากการยึดทรัพย์สินทางการเงินจากอาชญากรรม โดยจะไม่ขายออกสู่ตลาดยกเลิกแนวทางเดิมของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ (US Marshals Service) ที่มักจัดประมูลสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น Bitcoin, Ethereum และ Litecoin เป็นระยะ ๆ

“รัฐบาลของเราละเมิดกฎสำคัญที่ผู้ใช้ Bitcoin ทุกคนรู้ดีมานานเกินไปแล้ว นั่นคือห้ามขาย Bitcoin ของตนเด็ดขาด” ทรัมป์กล่าวในการประชุม Bitcoin 2024

คำมั่นสัญญาของทรัมป์ที่มีต่อชุมชนคริปโตก่อนการประชุมใหญ่คริปโตที่ทำเนียบขาว 7 มีนาคมนี้

สรุปข่าว

โดนัลด์ ทรัมป์ แสดงจุดยืนสนับสนุนคริปโต โดยให้คำมั่นในที่ประชุม Bitcoin 2024 ว่าจะตั้งคลังคริปโตแห่งชาติ ปลดประธาน ก.ล.ต. ที่มีนโยบายเข้มงวดต่อคริปโต สนับสนุนการขุด Bitcoin ในสหรัฐฯ และกดดันให้ Fed ลดดอกเบี้ย การประชุมใหญ่คริปโตที่ทำเนียบขาว 7 มีนาคมนี้อาจส่งผลสำคัญต่อวงการคริปโตทั่วโลก

2. ปลดแกรี่ เจนสเลอร์ ประธาน ก.ล.ต. สหรัฐฯ

ทรัมป์ให้คำมั่นว่าหากได้รับเลือกตั้ง เขาจะไล่แกรี่ เจนสเลอร์ (Gary Gensler) ประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) ซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยโจ ไบเดน ออกจากตำแหน่ง เนื่องจากนโยบายของ Gensler ที่เข้มงวดต่ออุตสาหกรรมคริปโต 

แม้ว่าอำนาจของประธานาธิบดีสหรัฐฯ อาจไม่สามารถปลดแกรี่ เจนสเลอร์ได้โดยตรง แต่สามารถแต่งตั้งประธานคนใหม่ขึ้นมาแทน แต่แกรี่ เจนสเลอร์ ได้ชิงลาออกจากตำแหน่งเสียก่อนตั้งแต่ต้นปี 2025 ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ทรัมป์ยังให้คำมั่นว่าจะจัดตั้ง “สภาที่ปรึกษาประธานาธิบดีด้านบิตคอยน์และคริปโต” เพื่อให้กฎเกณฑ์ในอุตสาหกรรมนี้ถูกกำหนดโดยผู้ที่เข้าใจและสนับสนุนเทคโนโลยีนี้อย่างแท้จริง 

3. ผลักดันให้ Bitcoin ถูกขุดในสหรัฐอเมริกา

ทรัมป์ให้ความสำคัญกับการขุด Bitcoin ภายในสหรัฐฯ โดยระบุว่าการขุดเหรียญคริปโตในประเทศจะช่วยสร้างความได้เปรียบทางพลังงานและเศรษฐกิจ เขาได้หารือกับกลุ่มผู้ประกอบการเหมืองขุด Bitcoin ชั้นนำของสหรัฐฯ และประกาศว่า “หากสกุลเงินดิจิทัลจะเป็นอนาคต ผมต้องการให้มันถูกขุด สร้าง และผลิตในสหรัฐอเมริกา”

4. กดดันให้ธนาคารกลางลดอัตราดอกเบี้ย

ทรัมป์กล่าวว่า หากได้รับเลือกตั้ง เขาจะผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงมักส่งผลให้ตลาดคริปโตเติบโต อย่างไรก็ตาม การดำเนินนโยบายดอกเบี้ยเป็นอำนาจของ Fed ซึ่งทำงานอย่างเป็นอิสระจากทำเนียบขาว

ท่าทีของทรัมป์ที่เป็นมิตรกับอุตสาหกรรมคริปโตถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและผู้ประกอบการในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล หากเขากลับมาดำรงตำแหน่ง อุตสาหกรรมคริปโตอาจได้รับแรงหนุนจากนโยบายที่เอื้อต่อการเติบโต 

การประชุมใหญ่คริปโตที่ทำเนียบขาวในวันที่ 7 มีนาคม

สำหรับการประชุมใหญ่คริปโตที่ทำเนียบขาวในวันที่ 7 มีนาคม 2025 ยังไม่มีการเปิดเผยรายชื่ออย่างเป็นทางการจากทำเนียบขาว แต่จากแถลงการณ์และรายงานจากสื่อต่าง ๆ คาดว่าผู้เข้าร่วมงานจะเป็นบุคคลสำคัญในวงการคริปโต เช่น ผู้ก่อตั้งหรือซีอีโอจากแพลตฟอร์มอย่าง Coinbase, Gemini, Ripple Labs, หรือ ConsenSys เนื่องจากบริษัทเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในวงการและเพิ่งได้รับการผ่อนปรนจากการสอบสวนของ SEC ในช่วงต้นปี 2025

นอกจากนี้อาจมีทีมพัฒนาเหรียญคริปโตชั้นนำในตลาดคริปโต กองทุนสำรองแห่งชาติ และตัวแทนจากชุมชนนักพัฒนาเทคโนโลยีบล็อกเชน Solana, Cardano, Ethereum Foundation หรือ Ripple เข้าร่วมเพื่อหารือเรื่องนโยบายเกี่ยวกับคริปโต

แม้ว่าทิศทางของวงการคริปโตในสหรัฐอเมริกาเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น แต่ยังคงมีความท้าทายสำคัญ เช่น แนวทางของหน่วยงานกำกับดูแล ความไม่ชัดเจนด้านกฎระเบียบหน่วยงานกำกับดูแล เช่น คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) และคณะกรรมการกำกับสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้า (CFTC) ยังมีความเห็นแตกต่างกันเกี่ยวกับสถานะทางกฎหมายของสินทรัพย์ดิจิทัล

ดังนั้น หลังการประชุมใหญ่คริปโตในวันที่ 7 มีนาคมนี้ที่ทำเนียบขาวอาจมีความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวงการคริปโตสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก

ที่มาข้อมูล : Reuters, CNBC

ที่มารูปภาพ : Reuters

avatar

พีรพรรธน์ เชื้อจีน