
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรฟุตบอลยักษ์ใหญ่แห่งพรีเมียร์ลีก กำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ด้วยโครงการสร้างสนามกีฬาแห่งใหม่ที่มีความจุถึง 100,000 ที่นั่ง โดยโครงการนี้ได้รับการออกแบบโดย Foster + Partners บริษัทสถาปัตยกรรมระดับโลกที่ขึ้นชื่อในด้านการออกแบบอาคารล้ำสมัยที่ผสมผสานทั้งความสวยงามและความยั่งยืนเข้าไว้ด้วยกัน
แนวคิดการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์
Foster + Partners ได้ออกแบบสนามกีฬาแห่งใหม่นี้ให้เป็นศูนย์กลางของชุมชน และไม่ได้เป็นเพียงแค่สนามฟุตบอล แต่ยังเป็นพื้นที่ที่เชื่อมโยงแฟนบอลและประชาชนในเมืองแมนเชสเตอร์เข้าด้วยกัน โครงสร้างของสนามถูกออกแบบให้รองรับแฟนบอลจำนวนมากขึ้น โดยยังคงเน้นประสบการณ์การชมเกมที่ยอดเยี่ยมผ่านมุมมองที่เปิดกว้างและเทคโนโลยีล้ำสมัย
สนามฟุตบอลที่เป็นจุดศูนย์กลางของการรวมผู้คนในเมืองแมนเชสเตอร์ และจุดหมายปลายทางของแฟนฟุตบอลทัวร์โลก สะท้อนประวัติอันยาวนานของเมือง แหล่งอุตสหกรรมขนาดใหญ่และมีฟุตบอลเป็นส่วนหนึ่งของเมือง ผู้คนในเมืองมองเห็นสนามได้จากระยะไกล โดยรอบ ๆ สนามยังเป็นพื้นที่ในร่มสำหรับจัดกิจกรรมต่าง ๆ ของผู้คนในเมืองและแฟนฟุตบอล
นอกจากนี้ การออกแบบสนามยังให้ความสำคัญกับความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การเลือกใช้วัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้ การออกแบบให้สนามรับแสงธรรมชาติได้อย่างเหมาะสม และระบบระบายอากาศที่ลดการใช้พลังงาน ล้วนเป็นองค์ประกอบที่ช่วยให้สนามกีฬาแห่งใหม่นี้เป็นต้นแบบของความยั่งยืน
โดย Foster + Partners นั้นเป็นบริษัทสถาปนิกชั้นนำจากสหราชอาณาจักร ไม่เพียงแต่เป็นผู้ออกแบบ Apple Park สำนักงานใหญ่ของ Apple ในคูเปอร์ติโน รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ยังเป็นผู้ออกแบบสนามบินนานาชาติเตโช (Techo International Airport) สนามบินหลักแห่งใหม่ของกัมพูชาอีกด้วย

สรุปข่าว
หลังคาขนาดใหญ่นวัตกรรมที่เป็นมากกว่าร่มเงา
หนึ่งในจุดเด่นที่สำคัญที่สุดของสนามกีฬาแห่งใหม่นี้คือ หลังคาขนาดใหญ่ที่สามารถเก็บพลังงานและน้ำฝน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรธรรมชาติของสนาม
1. ระบบเก็บพลังงานแสงอาทิตย์
หลังคาของสนามจะติดตั้ง แผงโซลาร์เซลล์ขนาดใหญ่ ที่สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้เองเพื่อลดการพึ่งพาแหล่งพลังงานภายนอก นอกจากจะช่วยลดต้นทุนด้านพลังงานแล้ว ยังช่วยให้สนามกีฬาแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ใช้พลังงานสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. ระบบเก็บน้ำฝนเพื่อการใช้ซ้ำ
อีกหนึ่งเทคโนโลยีสำคัญคือ ระบบเก็บและรีไซเคิลน้ำฝน โดยหลังคาถูกออกแบบให้สามารถรวบรวมน้ำฝนและนำไปใช้ใหม่ในระบบต่างๆ ของสนาม เช่น การรดน้ำสนามหญ้า การทำความสะอาด และระบบสุขาภิบาล ซึ่งจะช่วยลดการใช้น้ำปะปาและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
พื้นที่สาธารณะและการเชื่อมโยงกับเมือง
สนามกีฬาแห่งใหม่นี้ไม่ได้ถูกออกแบบให้เป็นเพียงแค่สนามฟุตบอลเท่านั้น แต่ยังมีพื้นที่สาธารณะที่ใหญ่กว่าจัตุรัสทราฟัลการ์ถึงสองเท่า เพื่อให้แฟนบอลและประชาชนสามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ดังกล่าวในการทำกิจกรรมทางสังคมต่างๆ เช่น พื้นที่สีเขียว ศูนย์การค้า และโซนพักผ่อน
การออกแบบนี้สะท้อนให้เห็นถึงแนวคิดของ Foster + Partners ที่ต้องการให้สนามกีฬาเป็นหัวใจของชุมชน และเป็นสัญลักษณ์ของเมืองที่สามารถใช้ได้ตลอดทั้งปี ไม่ใช่เพียงแค่วันแข่งขันฟุตบอลเท่านั้น
ที่มาข้อมูล : Foster + Partners
ที่มารูปภาพ : Foster + Partners

พีรพรรธน์ เชื้อจีน