
กองทัพอากาศสหรัฐฯ ประกาศผู้ชนะโครงการพัฒนาโดรนติดอาวุธรุ่นใหม่ 2 รุ่น ได้แก่ โดรนติดอาวุธรุ่น YFQ-42A จากบริษัท เจเนอรัล อะตอมิกส์ (General Atomics) และรุ่น YFQ-44A จากบริษัท แอนดูริล (Anduril) เพื่อใช้เป็นส่วนหนึ่งในการเสริมศักยภาพการครองอากาศ ของรวมไปถึงสนับสนุนการรบของฝูงบินเครื่องบินขับไล่ล่องหนรุ่น F-22 และ F-35 และเครื่องบินครองอากาศยุคใหม่ (Next Generation Air Dominance: NGAD) ในอนาคต

สรุปข่าว
โดรนติดอาวุธรุ่นใหม่เสริมฝูงบิน F-35 และ F-22
โดรนติดอาวุธรุ่น YFQ-42A และรุ่น YFQ-44A ต่างมีรูปร่างภายนอกคล้ายกับเครื่องบินขับไล่ โดยนิว แอตลาส (New Atlas) เว็บไซต์ข่าวเทคโนโลยีจากสหรัฐอเมริกากล่าวว่าโดรนทั้ง 2 รุ่น จะมีขนาดประมาณครึ่งหนึ่งของเครื่องบินขับไล่รุ่น F-16 Fighting Falcon และมีแท่นติดอาวุธ (Weapon bay) เก็บอยู่ภายในลำตัวโดรน
รายงานก่อนหน้านี้ของเดอะ วอร์ โซน (The War Zone) เพจทางการทหารชื่อดังของสหรัฐฯ ระบุว่า โดรนรุ่น YFQ-44A จากบริษัท แอนดูริล (Anduril) จะสามารถทำความเร็วสูงสุด 0.95 มัค หรือประมาณ 1,173 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากขุมกำลังเครื่องยนต์เทอร์โบแฟน (Turbofan engine) 1 ตัว น้ำหนักขึ้นบินสูงสุด (Maximum Take-Off Weight: MTOW) 2,270 กิโลกรัม
อย่างไรก็ตาม โดรนรุ่น YFQ-42A จากบริษัท เจเนอรัล อะตอมิกส์ (General Atomics) นั้นไม่มีข้อมูลทางเทคนิคอย่างเป็นทางการในปัจจุบัน แต่คาดว่าจะมีขุมกำลังและสมรรถนะไม่ด้อยกว่า YFQ-44A เนื่องจากต่างเป็นโดรนที่ได้รับการคัดเลือกจากกองทัพอากาศสหรัฐฯ ทั้ง 2 รุ่น
แผนการผลิตโดรนติดอาวุธรุ่นใหม่เสริมฝูงบิน F-35 และ F-22
ทั้งนี้ รหัสอากาศยานของกองทัพอากาศสหรัฐฯ บ่งชี้ประเภทของอากาศยาน โดยรหัส Y หมายถึง อากาศยานที่ผลิตเป็นเบื้องต้นหรือชุดแรกในสายพานการผลิต (Initial production-representative aircraft) F หมายถึงเครื่องบินขับไล่ และ Q หมายถึงอากาศยานไร้คนขับ ดังนั้น เมื่อการผลิตเสร็จสมบูรณ์ ตัวรหัส Y หน้าชื่อรุ่น YFQ-42A และรุ่น YFQ-44A จะถูกถอดออกในอนาคต
โดรนรุ่น YFQ-42A และรุ่น YFQ-44A ต่างประกาศว่ามีต้นทุนการผลิตต่ำแต่ประสิทธิภาพสูงจนสามารถเป็นส่วนหนึ่งของฝูงบินผสมระหว่างอากาศยานที่มีนักบินและอากาศยานไร้คนขับ (Manned-UnManned Teaming: MUM-T) ได้
โดยฝูงบินแบบ MUM-T จะมีโดรนติดอาวุธประกบกับเครื่องบินขับไล่ F-35 Lightning II, F-22 Raptor และเครื่องบินครองอากาศยุคใหม่ (Next Generation Air Dominance: NGAD) ซึ่งจะมาแทนที่ F-22 เสริมอำนาจการยิง การตรวจการณ์ส่วนหน้า และการลดความเสี่ยงนักบินต่อไป
ด้านตัวแทนของกองทัพอากาศสหรัฐฯ เปิดเผยกับ New Atlas ว่าโดรนทั้ง 2 รุ่น จะพร้อมเข้าประจำการชุดแรกจากการผลิตเบื้องต้นได้ภายในฤดูร้อนของสหรัฐอเมริกา หรือระหว่างเดือนมิถุนายนถึงกันยายนปี 2025 นี้
ที่มาข้อมูล : The U.S. Air Force, New Atlas, Wikipedia, The War Zone
ที่มารูปภาพ : The U.S. Air Force

Thanaboon Soasawang