
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ประกาศเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า รัฐบาลของเขาจะจัดตั้งกองทุนสำรองเชิงยุทธศาสตร์ด้านสกุลเงินดิจิทัล โดยจะรวมคริปโตสามสกุล ได้แก่ XRP (Ripple), SOL (Solana) และ ADA (Cardano) ซึ่งการประกาศดังกล่าวส่งผลให้มูลค่าของสกุลเงินดิจิทัลเหล่านี้พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะมีการเพิ่มข้อความรวม Bitcoin และ Ethereum ในเวลาต่อมา
ย้อนไปคำสั่งบริหารที่ออกในเดือนมกราคมของทรัมป์เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล เป็นการปูทางไปสู่การสร้างคลังสกุลเงินดิจิทัลเพื่อเสริมความแข็งแกร่งของระบบการเงินสหรัฐฯ เขาโพสต์ข้อความบน Truth Social โซเชียลมีเดียส่วนตัวว่า "คณะทำงานของประธานาธิบดีได้รับคำสั่งให้เดินหน้าสร้างกองทุนสำรองคริปโต และผมจะทำให้แน่ใจว่าสหรัฐฯ จะเป็นศูนย์กลางของคริปโตระดับโลก"

สรุปข่าว
หลังการประกาศ มูลค่าของ Bitcoin, Ethereum, XRP, SOL และ ADA เพิ่มขึ้นระหว่าง 10% ถึง 35% ในการซื้อขายเมื่อวันอาทิตย์ ขณะที่สินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ ก็ปรับตัวขึ้นเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดคริปโตมีความผันผวนสูง โดยสกุลเงินดิจิทัลรายใหญ่หลายสกุลสูญเสียกำไรเกือบทั้งหมดหลังจากที่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง ส่งผลให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับทิศทางของตลาดในอนาคต
นักวิเคราะห์มองว่าการฟื้นตัวของตลาดคริปโตยังต้องอาศัยปัจจัยสนับสนุนเพิ่มเติม เช่น สัญญาณจากธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย หรือกรอบการกำกับดูแลที่ชัดเจนจากรัฐบาลทรัมป์
ในวันศุกร์ที่ 7 มีนาคมที่จะถึงนี้ ทรัมป์มีกำหนดเป็นเจ้าภาพจัด "การประชุมสุดยอด Crypto ที่ทำเนียบขาว" เป็นครั้งแรก นอกจากนี้ ครอบครัวของเขายังมีแผนเปิดตัวเหรียญคริปโตของตัวเองอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความชัดเจนว่ากองทุนสำรองคริปโตดังกล่าวจะถูกจัดตั้งหรือดำเนินการอย่างไร ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายมีความเห็นแตกต่างกันเกี่ยวกับความจำเป็นในการออกกฎหมายรองรับ โดยบางฝ่ายมองว่ากระทรวงการคลังสหรัฐฯ อาจใช้กองทุนเสถียรภาพอัตราแลกเปลี่ยน ในการซื้อหรือขายสินทรัพย์ดิจิทัลโดยไม่ต้องพึ่งการอนุมัติจากสภาคองเกรส
นอกจากนี้กลุ่มที่ปรึกษาด้านคริปโตของทรัมป์ยังมีแผนศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้ง "คลังคริปโตแห่งชาติ" ซึ่งอาจรวมถึงสินทรัพย์ดิจิทัลที่ยึดได้จากปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายปราบปรามก่อนหน้านี้

พีรพรรธน์ เชื้อจีน