ผู้เชี่ยวชาญเตือนองค์การนาซา (NASA) ควรพิจารณาทางเลือกใหม่ในการส่งนักบินอวกาศไปดวงจันทร์

ผู้เชี่ยวชาญด้านอวกาศได้ให้ข้อมูลต่อรัฐสภาสหรัฐฯ ว่า องค์การนาซา (NASA) อาจต้องพิจารณาทางเลือกอื่นสำหรับโครงการอาร์เทมีส (Artemis) ในการส่งมนุษย์ไปยังดวงจันทร์ ท่ามกลางการแข่งขันทางอวกาศที่เข้มข้นกับจีน และความไม่แน่นอนภายในองค์กร พนักงานจำนวนมากเสี่ยงถูกไล่ออกจากงาน

คณะอนุกรรมการด้านอวกาศและการบินแห่งคณะกรรมาธิการวิทยาศาสตร์ อวกาศ และเทคโนโลยีของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้จัดการประชุมเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ เพื่อหารือเกี่ยวกับทิศทางของโครงการอาร์เทมีส (Artemis) และแผนสำรวจอวกาศในอนาคต โดยเฉพาะการเดินทางไปยังดาวอังคาร

ผู้เชี่ยวชาญที่เข้าร่วมประชุม ได้แก่ ดร. สก็อตต์ เพซ (Dr. Scott Pace) ผู้อำนวยการสถาบันนโยบายอวกาศแห่งมหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตัน และศาสตราจารย์แดน ดัมบาเชอร์ (Dan Dumbacher) จากมหาวิทยาลัยเพอร์ดู ทั้งสองเห็นพ้องกันว่าการส่งมนุษย์ไปดวงจันทร์มีความสำคัญ เนื่องจากจีนวางแผนจะส่งนักบินอวกาศของตนลงจอดก่อนปี 2030

ผู้เชี่ยวชาญเตือนองค์การนาซา (NASA) ควรพิจารณาทางเลือกใหม่ในการส่งนักบินอวกาศไปดวงจันทร์

สรุปข่าว

ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า NASA ควรพิจารณาทางเลือกใหม่ในการส่งนักบินอวกาศไปดวงจันทร์ ท่ามกลางการแข่งขันกับจีนและปัญหาภายในองค์กร รวมถึงข้อจำกัดด้านงบประมาณและกำลังคน พร้อมเสนอให้ใช้บริการขนส่งจากภาคเอกชนเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและความยั่งยืนของโครงการ Artemis

“ถึงเวลาที่องค์การนาซา (NASA) ต้องพิจารณาทางเลือกใหม่ในการเดินทางไปดวงจันทร์ โดยใช้บริการขนส่งขนาดใหญ่จากภาคเอกชน” ดร. สก็อตต์ เพซ กล่าว “แผนพัฒนา Artemis ฉบับปรับปรุงควรเป็นวาระเร่งด่วนสำหรับผู้บริหารชุดใหม่”

ศาสตราจารย์แดน ดัมบาเชอร์ กล่าวแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับระบบขนส่งยานอวกาศ (SLS) อาจไม่สามารถรองรับภารกิจได้ทันกำหนดเวลา เนื่องจากต้องมีการปล่อยยานหลายครั้งเพื่อพิสูจน์ความสามารถของมัน ทำให้โอกาสสำเร็จภายในปี 2030 แทบเป็นไปไม่ได้ ขณะที่เพซเสนอให้องค์การนาซา (NASA) พิจารณาทางเลือกใหม่ เช่น การใช้บริการขนส่งจากภาคเอกชน

นอกจากนี้ การแข่งขันทางอวกาศกับจีนมีผลกระทบต่อสถานะผู้นำของสหรัฐฯ และการสำรวจอวกาศของมนุษย์ "การเดินทางไปดวงจันทร์ไม่ควรเป็นภารกิจแบบ “ครั้งเดียวแล้วจบ” แต่ต้องเป็นระบบที่ยั่งยืนและทำภารกิจซ้ำได้ เพื่อให้สหรัฐฯ ยังคงความเป็นผู้นำด้านอวกาศในระยะยาว"

“จีนและพันธมิตรของพวกเขากำลังแซงหน้าเราในการเป็นผู้นำด้านอวกาศ นี่เป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อทั้งความมั่นคงแห่งชาติและเศรษฐกิจของสหรัฐฯ” ศาสตราจารย์แดน ดัมบาเชอร์ กล่าวเพิ่มเติม

ความไม่แน่นอนภายในองค์การนาซา (NASA)

นอกเหนือจากประเด็นด้านเทคนิค การพิจารณาคดียังสะท้อนถึงความไม่แน่นอนภายในองค์การนาซา (NASA) รวมถึงการเลิกจ้างพนักงานทดลองงานและความสับสนเกี่ยวกับแนวทางการบริหารงานที่เกิดขึ้นภายใต้รัฐบาลปัจจุบัน

ส.ส. โซอี ลอฟเกรน (Zoe Lofgren) จากรัฐแคลิฟอร์เนียกล่าวว่า “พนักงานขององค์การนาซา (NASA) กังวลว่าพวกเขาหรือเพื่อนร่วมงานอาจถูกไล่ออกโดยไม่มีเหตุผลที่ชัดเจน” ขณะที่ศาสตราจารย์แดน ดัมบาเชอร์ ระบุว่า สถานการณ์นี้ทำให้บุคลากรที่มีความสามารถสูงพิจารณาหางานใหม่ ซึ่งอาจกระทบต่อความสามารถขององค์การนาซา (NASA) ในการดำเนินภารกิจสำคัญ

ในการประชุมยังได้หยิบยกปัญหาด้านระเบียบราชการและกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างที่ซับซ้อน ซึ่งทำให้การนำเทคโนโลยีใหม่จากภาคเอกชนมาใช้เป็นไปได้ยากและมีต้นทุนสูง ส.ส. หลายคนเสนอให้มีการลดภาระด้านกฎระเบียบเพื่อเพิ่มความคล่องตัวและส่งเสริมวัฒนธรรมที่เปิดรับความเสี่ยงอย่างมีการคำนวณ

องค์การนาซา (NASA) กำลังเผชิญ ทั้งจากการแข่งขันกับจีน ปัญหาภายในองค์กร และอุปสรรคทางด้านกฎระเบียบ การดำเนินโครงการ Artemis และแผนสำรวจอวกาศของสหรัฐฯ ในอนาคตจึงจำเป็นต้องมีการปรับปรุงเพื่อให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

ที่มาข้อมูล : Space.com

ที่มารูปภาพ : ​NASA

avatar

พีรพรรธน์ เชื้อจีน

แท็กบทความ