ความรักแสนประหลาดปลาตกเบ็ดตัวผู้รวมร่างกับตัวเมียกันไปจนตัวตาย

นักวิทยาศาสตร์พบว่าร่างของตัวผู้จะค่อย ๆ ผสานเข้ากับตัวเมียจนแยกออกจากกันไม่ได้ กระแสเลือดของทั้งสองจะเชื่อมต่อกัน และตัวผู้จะสูญเสียอวัยวะที่ไม่จำเป็น เช่น ดวงตาไปอย่างถาวร

แม้ว่าตัวผู้จะไม่สามารถล่าเหยื่อเองได้ แต่พวกมันมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการอยู่รอดของสายพันธุ์ นั่นคือการปล่อยน้ำอสุจิให้กับตัวเมียอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยให้ตัวเมียสามารถผลิตไข่ได้ตลอดชีวิต ความสัมพันธ์ของปลาตกเบ็ดจึงไม่ใช่แค่การเป็นคู่รัก แต่เป็นการพึ่งพาอาศัยกันในระดับพันธุกรรม

การพบเห็นปลาตกเบ็ดครั้งล่าสุด

การพบเห็นครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในช่วงต้นเดือนมกราคม 2025 โดยนักวิจัยและช่างภาพทะเลน้ำลึก เดวิด ฮารา โบกูญา (David Hara Bocuña) บริเวณชายฝั่งเตเนรีเฟ หมู่เกาะคานารี ประเทศสเปน โดยเขากล่าวว่า  "นี่อาจเป็นการพบเห็นปีศาจสีดำหรือสัตว์ในท้องทะเลวัยโต (Melanocetus johnsonii) ครั้งแรกในโลกที่ยังมีชีวิตอยู่ ทั้งตอนกลางวันแสกๆ และบนผิวน้ำ!!"

ส่วนทางด้านของคอนดริก เทเนริเฟ (Condrik Tenerife) ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยและอนุรักษ์ฉลามและกระเบน กล่าวเพิ่มเติมว่า "จนถึงปัจจุบัน บันทึกส่วนใหญ่ประกอบด้วยตัวอ่อน ตัวเต็มวัยที่ตาย หรือตัวอย่างที่พบโดยเรือดำน้ำระหว่างการสำรวจทางวิทยาศาสตร์ใต้ท้องทะเลลึก"

อย่างไรก็ตาม ในรายงานการพบเห็นปลาตกเบ็ดครั้งล่าสุดนี้ไม่พบข้อมูลว่าเป็นสายพันธุ์เดียวกับที่เพศผู้และเพศเมียร่างกายหลอมรวมติดกันไปจนตายหรือไม่

นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่ามีปลาตกเบ็ดมากกว่า 300 สายพันธุ์ อาศัยอยู่ในมหาสมุทร แต่พฤติกรรมการเกาะติดแบบปรสิต และพบว่าความแตกต่างทางเพศอย่างรุนแรงพบได้เฉพาะในปลาตกเบ็ดน้ำลึกเท่านั้น

สำหรับปลาตกเบ็ดสายพันธุ์ในน้ำตื้น ตัวผู้มักมีขนาดใหญ่กว่า หรือใกล้เคียงกับตัวเมีย และมีชีวิตที่เป็นอิสระมากกว่า พวกมันจะพบตัวเมียเพื่อผสมพันธุ์เท่านั้น ก่อนจะแยกย้ายกันไป ต่างจากญาติในทะเลลึกที่เลือกใช้ชีวิตคู่แบบรวมร่างไปกับตัวเมียกันไปจนตัวตาย