
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยในฮ่องกงได้สร้างโดรนจิ๋วที่สามารถบินผ่านอากาศด้วยความเร็วสูง พร้อมติดตั้งระบบนำทางด้วยปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ทำให้มันสามารถสร้างแผนที่เส้นทาง และบินหลบสิ่งกีดขวางได้อย่างแม่นยำ แม้จะบินด้วยความเร็วมากกว่า 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

สรุปข่าว
โดรนบินจิ๋วนี้มีชื่อว่า ซูเปอร์ เอ็มเอวี (SUPER MAV) หรือยานพาหนะทางอากาศขนาดเล็กที่รับประกันความปลอดภัยในอากาศ มาพร้อมความสามารถในการเคลื่อนที่ผ่านภูมิประเทศที่สลับซับซ้อนและไม่คุ้นเคยมาก่อน เช่น ป่าไม้ พร้อมหลบสิ่งกีดขวางในขณะที่มันบินได้อย่างช่ำชอง
แกนหลักของเทคโนโลยีของโดรนบิน อยู่ที่เซ็นเซอร์ไลดาร์ (LiDAR) สามมิติน้ำหนักเบา ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้แสงในรูปแบบของเลเซอร์พัลซิ่ง (Pulsed laser) หรือเลเซอร์ที่ปล่อยแสงออกมาเป็นชุดสั้น ๆ เพื่อใช้ในการวัดระยะทาง ช่วยให้โดรนสามารถตรวจจับสิ่งกีดขวางจากระยะไกลได้ ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญสำหรับการนำทางในพื้นที่รก หรือพื้นที่ที่โดรนไม่คุ้นเคย
ศาสตราจารย์จาง ฟู่ จากมหาวิทยาลัยฮ่องกง อธิบายว่า การพัฒนาโดรนลำนี้ก็เพื่อแก้ไขปัญหาพื้นฐานที่สำคัญของการใช้งานโดรนบิน คือทำอย่างไรให้โดรนบินได้อย่างปลอดภัยด้วยความเร็วสูง โดยเซ็นเซอร์ของโดรนที่พัฒนาขึ้นนี้ สามารถตรวจจับสิ่งกีดขวางที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 70 เมตร ในขณะที่บินด้วยความเร็วสูงมาก และหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางที่อยู่ข้างหน้าได้พร้อมกัน
ข้อมูลของเซ็นเซอร์ได้รับการประมวลผลโดยกรอบการวางแผนที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อสร้างแผนภูมิเส้นทางการบินที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ในระหว่างกระบวนการนี้ ระบบ AI จะสร้างเส้นทางสองเส้นทางสำหรับโดรน เส้นทางหนึ่งจะอยู่ภายในพื้นที่ปลอดภัยที่โดรนมีข้อมูล และอีกเส้นทางจะเป็นพื้นที่ที่ทราบและไม่ทราบข้อมูล เพื่อเพิ่มความเร็วสูงสุด
ทีมพัฒนาระบุว่า การสร้างแผนที่เส้นทางบินแบบสองเส้นทางพร้อมกันนี้ ช่วยให้โดรนสามารถตัดสินใจได้ในเสี้ยววินาที ลดข้อผิดพลาดในการนำทางลง 35 เท่า และลดเวลาวางแผนการบินลงถึงร้อยละ 50 เมื่อเทียบกับวิธีแบบเดิม
ในการทดสอบในโลกแห่งความเป็นจริง ตัวโดรนแสดงให้เห็นความสามารถในการบินอัตโนมัติในขณะที่หลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางได้อย่างน่าทึ่ง ซึ่งโดรนดังกล่าวอาจนำไปใช้ในภารกิจสำคัญ ๆ เช่น การบรรเทาภัยพิบัติ และภารกิจการค้นหาและการช่วยเหลือในอนาคต
ข้อมูลจาก
ที่มาข้อมูล : Faculty of Engineering / The University of Hong Kong / Reuters
ที่มารูปภาพ : Faculty of Engineering / The University of Hong Kong / Reuters

null null
(areeya.jaisook)