Super AI Engineer Season 5 โครงการ Upskill/Reskill AI ช่วยไทยสร้างนวัตกรรมของชาติ

โครงการ Super AI Engineer Season 5 

โครงการฯ ได้รับความร่วมมือจาก 3 หน่วยงานหลัก เพื่อขับเคลื่อนกิจกรรมได้แก่ 1. สมาคมปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย (AIAT) 2. ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) 3. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (RMUTT) โดยมี ผศ.ดร.นงนุช เกตุ้ย เป็นหัวหน้าโครงการฯ ซึ่งจะแบ่งเป็น 3 Track ได้แก่ 

1. Track 1 : AI Innovator มุ่งสร้างนวัตกรด้านเอไอ ที่สามารถใช้ AI Software, AI Tools / API มาทำเป็นแอป, ทำเป็นบริการ, หรือมาช่วยแก้ปัญหาขององค์กร ชุมชน หรือปัญหาที่มีได้
2. Track 2 : AI Engineer มุ่งสู่การเป็นวิศวกรเอไอ ที่สามารถพัฒนาโมเดล AI เพื่อประยุกต์กับงานด้านต่าง ๆ ซึ่ง Track นี้เป็น Track ที่มีอยู่เดิมในโครงการปีก่อนหน้า
3. Track 3 : AI Researcher มุ่งเน้นเผยแพร่องค์ความรู้ AI ใหม่ ๆ ในวงการวิชาการระดับสากล

โดยผู้ที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการ Super AI Engineer Season 5 เพื่อ Upskill / Reskill โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายทั้งหมดตลอดโครงการ

ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจที่จะเข้าร่วมโครงการใน Track AI Innovator, AI Engineer หรือ AI Researcher สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการภายในวันที่ 2 มีนาคม 2025 เพื่อให้มีสิทธิ์ได้รับการคัดเลือกเข้าสู่ level 2 ได้ ส่วนผู้ที่ต้องการเรียน AI พื้นฐานผ่านทางระบบออนไลน์ที่มีให้เลือกเรียน AI หลากหลายด้านสามารถสมัครได้จนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2025

การพัฒนากำลังคนด้าน AI กับการพัฒนาประเทศไทย

จากข้อมูลสถิติของสำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ปีการศึกษา 2565-2566 มีบัณฑิตที่จบหลักสูตรสาขาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์โดยตรง ไม่ถึง 500 คน ซึ่งแปลว่าประเทศไทยกำลังประสบภาวะขาดแคลนกำลังคนสมรรถนะสูง ในขณะที่ข้อมูลอีกด้านระบุว่า ปัจจุบันมีการขาดแคลนคนทำงานด้าน AI กว่า 80,000 คน แต่คน AI กว่าครึ่งไม่ได้ทำงานด้าน IT และธุรกิจยังมีความต้องการจ้างคนไปทำวิจัยพัฒนาในสัดส่วนที่สูงที่สุด (ร้อยละ 35)

นายพันธุ์เพิ่มศักดิ์ อารุณี รักษาการที่ปรึกษาด้านพัฒนาการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า ปัญหาด้าน AI ของประเทศไทย พบว่ามี 2 ปัญหาหลัก คือ การขาดแคลนบุคลากรและการประยุกต์ใช้ AI ยังมีน้อย รวมไปถึงแผนพัฒนาที่ชัดเจน

ดร.ภาวดี อังค์วัฒนะ รองผู้อำนวยการ หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนากำลังคน และทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษา การวิจัยและการสร้างนวัตกรรม (บพค.) มองว่า เพื่อตอบโจทย์อุตสาหกรรมแห่งอนาคตของประเทศไทยสู่อาเซียน ไทยจำเป็นต้องมีการขับเคลื่อนเพื่อพัฒนากำลังคนสมรรถนะสูงและงานวิจัยขั้นแนวหน้าในด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของประเทศแบบ demand driven ให้พร้อมรับการ disruption ของโลก 

ด้วยเหตุนี้ AIAT จึงพัฒนาโครงการ Super AI Engineer Season 5 เพื่อตอบโจทย์ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในไทย ให้พร้อมรับการ disruption ระดับโลก ในขณะเดียวกัน กระทรวง อว. ได้กำหนดนโยบาย อว. for AI ที่มุ่งเน้นการดำเนินการใน 3 เสาหลัก ได้แก่ 

1. AI for Education : การใช้ AI ในการเรียนการสอนให้คนไทยมีศักยภาพสูงสุด และเร็วที่สุด 
2. AI Workforce Development : การพัฒนาบุคลากรด้าน AI และการสร้างพื้นฐานด้าน AI ให้คนไทยในระบบการศึกษาและตลาดแรงงาน และ 
3. AI Innovation : การสนับสนุนนวัตกรรม AI สู่ตลาด การพัฒนามาตรฐานและทดสอบ รวมถึงการส่งเสริมให้เกิดความแพร่หลายเพื่อยกระดับเศรษฐกิจไทย

โดยโครงการ Super AI Engineer Season 5 ได้รับการสนับสนุนนจากภาครัฐและเอกชน เช่น แอลจี ประเทศไทย (LG) ได้สนับสนุนโน้ตบุ๊ก LG gram มูลค่ารวมกว่า 2.4 ล้านบาท สำหรับโครงการ ด้าน SCBX นั้นให้ผู้เข้าอบรม Super AI Engineer สามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนา Typhoon LLM ที่เป็นระบบ AI ของไทย ตลอดจน Huawei Cloud ประเทศไทย รวมไปถึง AXONS Corporate, เดอะไพน์ รีสอร์ท, บริษัท อัลโต้เทค โกลบอล จำกัด, SCG, บริษัท บิซิเนส ออนไลน์ จำกัด, บริษัท ทัชเทค โซลูชั่น จำกัด, ศูนย์ประสานงานเครือข่ายภูมิภาค 5 ศูนย์ และมหาวิทยาลัยในเครือข่าย, ศูนย์ทรัพยากรคอมพิวเตอร์เพื่อการคำนวณขั้นสูง (NSTDA Supercomputer Center: ThaiSC), สภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย (DCT), หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.), ธนาคารแห่งประเทศไทย, โรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสาน, สมาคมผู้ประกอบการปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย เป็นต้น