
ข้อมูลจาก CIRP (Consumer Intelligence Research Partners) บริษัทวิจัยตลาดและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้บริโภค เผยให้เห็นถึงพฤติกรรมการใช้งาน iPhone และ iPad ในกลุ่มผู้ใช้งานในสหรัฐฯ พบว่ามีคนใช้งาน iPhone ถี่กว่า iPad อย่างชัดเจน

สรุปข่าว
โดยผู้คนจะใช้งาน iPhone ในแทบทุกแอปพลิเคชัน ซึ่งมีมากกว่า 90% ที่ใช้ส่งข้อความและเข้าถึงอินเทอร์เน็ตอย่างน้อยวันละครั้ง นอกจากนี้ ผู้ใช้ประมาณ 2 ใน 3 ยังใช้ iPhone อย่างสม่ำเสมอเพื่อการเล่นเกม ฟังเพลง และถ่ายภาพ
สำหรับผู้ใช้งานฝั่ง iPad มีความถี่ในการใช้งานที่น้อยกว่า โดยการเล่นอินเทอร์เน็ต เป็นเพียงอย่างเดียวบน iPad ที่มีการใช้งานมากกว่า 80% ส่วนการส่งอีเมล การเล่นเกม และการดูคลิปวิดีโอบนตัวอุปกรณ์ จะถูกใช้งานจาก 2 ใน 3 ของผู้ใช้ iPad ทั้งหมดเท่านั้น
การฟังเพลงบน iPad มีอัตราการใช้งานน้อยกว่า 60% และการอ่านหนังสือหรือบทความบนสื่ออื่น ๆ อย่างน้อยวันละครั้ง มีเพียงประมาณ 1 ใน 3 จากจำนวนผู้ที่ถูกสำรวจเท่านั้น
เมื่อเปรียบเทียบการใช้งานในแต่ละด้านระหว่าง iPhone และ iPad พบว่า iPhone มีความถี่ในการใช้งานที่สูงกว่าในทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นการส่งอีเมล การเล่นเกม การดูคลิปวิดีโอ หรือการฟังเพลง
แม้ว่า iPad จะได้รับการออกแบบให้มีจอแสดงผลที่ใหญ่กว่า มีโปรเซสเซอร์ที่ทรงพลังกว่า เหมาะสำหรับการใช้งานในกิจกรรมต่าง ๆ ได้มีประสิทธิภาพมากกว่า iPhone แต่ข้อได้เปรียบของ iPhone คือการที่มันสามารถพกติดตัวไปไหนได้ง่ายกว่า ทำให้คนเลือกใช้ iPhone บ่อยกว่าในชีวิตประจำวัน
ข้อมูลนี้ชี้ให้เห็นว่า iPhone มีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคมากกว่า iPad ด้วยความสะดวกในการพกพา และความสามารถที่ครอบคลุม ในการใช้งานที่หลากหลาย ในขณะที่ iPad ถูกใช้งานในลักษณะเฉพาะด้านมากกว่า เช่น การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและการดูวิดีโอ การศึกษานี้สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับความคล่องตัวและการใช้งานที่ตอบโจทย์ในทุกสถานการณ์