ดูไบเตรียมสร้าง "Therme Dubai" รีสอร์ตเพื่อสุขภาพสูงที่สุดในโลก

มหานครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ UAE ประกาศแผนการสร้างรีสอร์ตเพื่อสุขภาพที่สูงที่สุดในโลก "Therme Dubai"  ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์คุณภาพชีวิตดูไบ 2033 เพื่อสะท้อนความมุ่งมั่นในการพัฒนาความหลากหลายทางชีวภาพ และความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม

ดูไบเตรียมสร้าง "Therme Dubai"  รีสอร์ตเพื่อสุขภาพสูงที่สุดในโลก

สรุปข่าว

ดูไบเตรียมสร้าง "Therme Dubai" รีสอร์ตที่สูงที่สุดในโลกในปี 2028 ด้วยความสูง 100 เมตร ออกแบบโดยบริษัท Diller Scofidio + Renfro ชื่อดังของสหรัฐฯ ตั้งอยู่ใกล้กับตึกระฟ้า One Za'abeel และสามารถมองเห็น Burj Khalifa ได้ในระยะไกล โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์คุณภาพชีวิตดูไบ 2033 มีน้ำตก 3 แห่ง สระว่ายน้ำ สวนพฤกษศาสตร์ในร่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีพืชกว่า 200 สายพันธุ์จากทั่วโลก มีพื้นที่เล่น น้ำตก สิ่งอำนวยความบันเทิง สระแร่ ห้องอบไอน้ำ และทรีตเมนต์ธรรมชาติ มีการออกแบบอาคารให้ประหยัดพลังงาน โดยใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยสำหรับการบำบัดน้ำ ความร้อนและความเย็น มีการรีไซเคิลน้ำ 90% และใช้พลังงานสะอาด 80% คาดว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ถึง 1.7 ล้านคนต่อปี

ตึก Therme Dubai จะมีความสูง 100 เมตร ตั้งอยู่ในสวน Zabeel และมีกำหนดเปิดตัวในปี 2028 ด้วยงบประมาณกว่า 545 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (2 พันล้าน AED) หรือราว 1.83 หมื่นล้านบาท รีสอร์ตแห่งนี้จะประกอบด้วยสวนพฤกษศาสตร์ในร่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก และคาดว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ถึง 1.7 ล้านคนต่อปี

HH Sheikh Hamdan bin Mohammed bin Rashid Al Maktoum มกุฎราชกุมารแห่งดูไบ รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และประธานสภาบริหารแห่งดูไบ ทรงแสดงพระวิสัยทัศน์ต่อโครงการนี้แก่สาธารณะว่า " Therme Dubai เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์คุณภาพชีวิตดูไบ 2033 ซึ่งมีเป้าหมายที่จะทำให้ดูไบเป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก" 

โดยกลยุทธ์คุณภาพชีวิตดูไบ 2033 ที่กล่าวมานี้ มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยมีเป้าหมายหลักคือการสร้างเมืองที่เดินเท้า เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเหมาะสำหรับครอบครัว นอกจากนี้ยังมีแผนการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณะ เช่น สวนสาธารณะใหม่ 200 แห่ง การขยายเส้นทางปั่นจักรยาน และชายหาดสำหรับว่ายน้ำ

Therme Dubai ได้รับการออกแบบโดยบริษัท Diller Scofidio + Renfro  สตูดิโอออกแบบชื่อดังด้านสหสาขาวิชาชีพ ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา และตั้งอยู่ใกล้กับตึกระฟ้า One Za'abeel และสามารถมองเห็นอาคารที่สูงที่สุดในโลกอย่าง Burj Khalifa ได้ในระยะไกล 

โครงสร้างของอาคารมีความตั้งใจให้เป็นศูนย์กลางของโครงการรีสอร์ตเพื่อสุขภาพ และจะเป็นที่ตั้งของน้ำตกสามแห่ง แต่ละแห่งจะสูง 18 เมตร (60 ฟุต) คาดว่าจะมีลิฟต์หรือบันไดติดตั้งเพื่อให้ขึ้นไปถึงยอด และทั้งหมดใช้เป็นโครงสร้างกระจก ทำให้สามารถรักษาระดับอุณหภูมิที่สะดวกสบายได้ในทุกสภาพอากาศ และทำให้รูปลักษณ์ทั้งหมดดูแปลกตาเหมือนหลุดมาจากดิไซน์แห่งโลกอนาคต 

Therme Dubai จะรวมถึงพื้นที่เล่น น้ำตก และสิ่งอำนวยความบันเทิง และนอกจากสระว่ายน้ำแล้ว ยังมีสระน้ำแร่ ห้องอบไอน้ำ และทรีตเมนต์ธรรมชาติให้บริการอีกด้วย ตามคำกล่าวของเจ้าหน้าที่รัฐบาล Therme Dubai จะมีสวนพฤกษศาสตร์ในร่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งรองรับพืชกว่า 200 สายพันธุ์จากทั่วโลก รวมถึงทางโครงการมีความตั้งใจให้ระบบภายในของโครงการ Therme Dubai เป็นโครงการที่ประหยัดพลังงาน และมุ่งสูงวิสัยทัศน์แห่งความยั่งยืน

จากข่าวประชาสัมพันธ์ของรัฐบาลระบุว่า Therme Dubai จะรีไซเคิลน้ำจากสระว่ายน้ำได้ถึง 90% เพื่อใช้สำหรับสระน้ำร้อน และกว่า 80% ของระบบเครื่องฟอกอากาศและเครื่องทำความเย็นจะใช้พลังงานจากแหล่งพลังงานสะอาด เพื่อให้โครงการนี้เป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม โดยจัดแสดงงานศิลปะที่สร้างสรรค์และดื่มด่ำจากเมืองต่าง ๆ ทั่วโลก

โครงการ Therme Dubai ไม่เพียงแต่เป็นสัญลักษณ์ของความก้าวหน้าทางสถาปัตยกรรม แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของดูไบในการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอีกด้วย

ดูไบประกาศกลยุทธ์คุณภาพชีวิต 2033 โดยมีเป้าหมายที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนและทำให้ดูไบเป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลกภายในปี 2033 กลยุทธ์นี้ประกอบด้วยโครงการริเริ่มกว่า 200 โครงการ ที่มุ่งเน้นการพัฒนาด้านต่างๆ เช่น การเข้าถึงบริการต่างๆ ภายใน 20 นาที การจัดกิจกรรมที่หลากหลายกว่า 1,000 รายการต่อปี การพัฒนาพื้นที่สีเขียวและชายหาด การพัฒนาพื้นที่รอบนอกเมือง และอื่นๆ อีกมากมาย โครงการสำคัญ ได้แก่ การสร้างสวนสาธารณะกว่า 200 แห่ง การขยายเส้นทางปั่นจักรยานริมชายหาด การสร้างชายหาดสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ และการพัฒนาพื้นที่รอบนอกเมืองอย่างครอบคลุม การประกาศกลยุทธ์นี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของดูไบในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและสร้างเมืองให้เป็นเมืองที่น่าอยู่และน่าดึงดูดที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

ที่มาของข้อมูล 

https://www.constructionweekonline.com/news/worlds-tallest-wellness-building-therme-dubai-2028

https://newatlas.com/architecture/therme-dubai-waterfall-tower/

https://www.thermegroup.com/dubai-and-therme-group-unveil-revolutionary-urban-oasis-therme-dubai-islands-in-the-sky