
นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางป้องกันการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าร่วมกับ 20 หน่วยงาน ซึ่งเป็นการติดตามความคืบหน้าและสรุปแผนการดำเนินงานตามมาตรการ 3 แนวทางที่ได้จากการประชุมครั้งแรกเมื่อ 27 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา
ที่ประชุมได้กำหนดแผนปฏิบัติการควบคุมการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าในระยะเร่งด่วน ระยะสั้น และระยะยาว ประกอบด้วย 3 ยุทธศาสตร์ คือ
ยุทธศาสตร์ที่ 1 ด้านการปราบปรามโดยการบังคับใช้กฎหมาย
ยุทธศาสตร์ที่ 2 ด้านการป้องกันปัญหาการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้า
ยุทธศาสตร์ที่ 3 การปรับปรุงแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับ “บุหรี่ไฟฟ้า” พร้อมมีการเสนอตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้า โดยมีคณะอนุกรรมการ 3 คณะ ตามยุทธศาสตร์ของแผนปฏิบัติการที่กำหนดไว้
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้ติดตามความคืบหน้าการดำเนินการปราบปรามการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งที่ผ่านมาทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้มีการปิดกั้นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า กว่า 9,000 แพลตฟอร์ม พร้อมได้มีการหารือกับผู้ประกอบการเพื่อขอความร่วมมือในการปิดกั้น Keyword การค้นหาที่เกี่ยวข้องกับบุหรี่ไฟฟ้า และขอให้ผู้ประกอบการเร่งทำบัญชีรายชื่อผู้ใช้บริการแพลตฟอร์ม หากพบมีการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ต้องปิดกั้นทันที
สำหรับผู้ประกอบธุรกิจให้บริการขนส่ง ต้องติดป้ายประชาสัมพันธ์ ห้ามมิให้มีการจัดส่งบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง โดยใช้ข้อความตามที่ สคบ. กำหนด ณ สถานที่ให้บริการทุกแห่ง พร้อมเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบสินค้า กรณีมีเหตุอันควรสงสัย ให้ตรวจสอบโดยวิธีการผ่านเครื่องสแกน และต้องมีการจัดเก็บข้อมูลของผู้ส่งสินค้าไว้เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 30 วัน เพื่อเป็นข้อมูลให้ สคบ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถตรวจสอบได้ในกรณีที่มีการร้องขอ

สรุปข่าว
”ขอให้ทางกระทรวงมหาดไทย กระทวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมศุลกากร และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สรุปผลการปราบปราม โดยให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นผู้รวบรวมข้อมูลรายสัปดาห์ และจัดแถลงผลให้ประชาชนรับทราบ ทั้งนี้ หากผู้ใดพบเห็นการลักลอบผลิต ขายบุหรี่ไฟฟ้า หรือน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า
สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ หรือแจ้ง สคบ. ได้ที่สายด่วน 1166 เว็บไซต์ www.ocpb.go.th แอปพลิเคชัน OCPB Connect รวมทั้งศูนย์ดำรงธรรมในทุกจังหวัด หรือ สายด่วน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โทร. 1599 หรือ ศูนย์ช่วยเหลือและจัดการปัญหาออนไลน์ สายด่วน 1212 (24 ชั่วโมง) รวมถึง อีเมล์ 1212@mdes.go.th” นางสาวจิราพร กล่าว
ทั้งนี้ ข้อมูลจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รายงานว่า ระหว่างวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 - 4 มีนาคม 2568 มีการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าจำนวน 666 คดี โดยมีผู้ต้องหารวม 690 คน ตรวจยึดของกลางได้ทั้งสิ้น 454,958 ชิ้น คิดเป็นมูลค่าประมาณ 41,911,815 บาท
อ่านข่าว : รัฐบาลย้ำ! บุหรี่ไฟฟ้า จับสถานเดียว เตือนภัยล่าสุดมาในรูปแบบ “โดเรมอน”