นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะผู้อำนวยการกลาง/เลขานุการ กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เปิดเผยว่า สำหรับสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในวันนี้ ภาพรวมถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีมาก โดยเกือบทั้งประเทศมีค่าฝุ่นอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานระดับสีฟ้าซึ่งเป็นระดับที่แสดงให้เห็นว่าคุณภาพอากาศดีมาก ซึ่งสถานการณ์ฝุ่นจะยังดีขึ้นอย่างต่อเนื่องก่อนจะกลับมาก่อตัวอีกครั้งช่วงสั้น ๆ ในระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์ – 1 มีนาคม 2568 ด้านจุดความร้อน (Hotspot) ในวันนี้ มีจำนวน 237 จุด โดยพบในพื้นที่ป่าอนุรักษ์และเขตพื้นที่ ส.ป.ก. เป็นส่วนใหญ่
5 จังหวัดที่พบจุดความร้อนสูงสุด ได้แก่ ชัยภูมิ จำนวน 35 จุด มุกดาหาร จำนวน 32 จุด สกลนคร จำนวน 32 จุด ขอนแก่น จำนวน 28 จุด และหนองบัวลำภู 20 จุด ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการเร่งดำเนินการตามมาตรการของรัฐบาลอย่างเข้มข้นเพื่อลดจำนวนจุดความร้อน โดยกรมป่าไม้ได้มีการออกปฏิบัติการควบคุมไฟป่าไปแล้วรวม 2,568 ครั้ง และดำเนินคดีกับผู้ที่เผาป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติไปแล้ว 17 รายการ ด้านกรมอุทยาน สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้มีการประกาศปิดป่าไปแล้วจำนวน 138 พื้นที่ และดำเนินคดีกับผู้ที่เผาป่าในพื้นที่ป่าอนุรักษ์รวม 31 คดี
ส่วนของการลดจุดความร้อนในพื้นที่การเกษตรนั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้สร้างการรับรู้แก่ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่อย่างต่อเนื่องถึงมาตรการตัดสิทธิ์การให้ความช่วยเหลือทางการเกษตรหากพบว่ามีการจัดการกับเศษวัสดุโดยการเผา การรณรงค์และสนับสนุนให้ประชาชนกำจัดเศษวัสดุทางการเกษตรด้วยการใช้จุลินทรีย์และการไถกลบ ร่วมกับการคาดการณ์พื้นที่เก็บเกี่ยวในห้วงถัดไปเพื่อสนับสนุนเครื่องมือและอุปกรณ์ให้เกษตรกรสามารถจัดการกับเศษวัสดุได้อย่างเหมาะสม และปฏิบัติการฝนหลวงต่อเนื่องเป็นประจำเพื่อลดจำนวนจุดความร้อนในพื้นที่การเกษตร
เช่นเดียวกับกระทรวงอุตสาหกรรมที่ได้สำรวจพบว่าในปี 2568 จำนวนผลผลิตทางการเกษตร (อ้อย) มีการเผาลดน้อยลงอย่างมีนัยยะสำคัญ โดยมีจำนวนอ้อยเผาเข้าหีบเพียง 14.43% น้อยที่สุดในรอบ 5 ปี สอดคล้องกับข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขที่พบว่าในปี 2568 มีประชาชนเข้ารับการรักษาใน 4 กลุ่มโรคที่เกี่ยวข้องกับฝุ่น PM 2.5 น้อยลงกว่าปี 2567 โดยมีประชาชนเข้ารับการรักษาในกลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคทางเดินหายใจ โรคเยื่อบุตาขาวอักเสบ และโรคผิวหนังอักเสบ ลดลง ข้อมูลเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าทุกภาคส่วนได้มีการทำงานอย่างจริงจังและต่อเนื่องตามนโยบายของรัฐบาลเพื่อคืนอากาศสะอาดให้แก่ประชาชน
สรุปข่าว
สำหรับการดำเนินงานในระดับพื้นที่ในวันนี้ จังหวัดระยองได้ดำเนินการตามมาตรการของกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติและข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี เพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 อย่างครอบคลุม โดยมีการออกประกาศห้ามเผาในเขตพื้นที่ป่า การออกประกาศการจำกัดการเข้าถึงพื้นที่ป่า การบริหารจัดการเชื้อเพลิงเชิงรุกด้วยการชิงเก็บเพื่อลดเผา ควบคู่กับการลาดตระเวนตรวจและดับไฟป่า จัดทำแนวกันไฟเพื่อลดปริมาณเชื้อเพลิง สำหรับการจัดการไฟในพื้นที่การเกษตร ได้มุ่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทาบมาตรการบริหารจัดการป้องกันปัญหาฝุ่น PM 2.5 ของภาคการเกษตร เน้นสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในการปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าว ส่งเสริมการทำการเกษตรแบบไม่เผา สนับสนุนให้ประชาชนนำวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรไปแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า อาทิ การทำสารชีวมวล การทำปุ๋ย การทำอาหารสัตว์ ด้านการจัดการฝุ่นในเขตเมือง ได้มีการตรวจสอบโครงการก่อสร้างในพื้นที่ ตรวจจจับและสั่งห้ามใช้รถควันดำ ซึ่งปัจจุบันมีการตรวจจับไปแล้วรวมกว่า 63 คัน
ด้านนายสหรัฐ วงศ์สกุลวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะประธานการประชุมกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ กล่าวว่า สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในวันนี้ถือว่าดีขึ้นกว่าเมื่อวานมาก จำนวนจุดความร้อนทั้งในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าอนุรักษ์ พื้นที่เกษตรกรรม เขตส.ป.ก. มีจำนวนลดลงในทุกพื้นที่ ซึ่งต้องขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่ได้มีการดำเนินการตามมาตรการอย่างเข้มข้นและต่อเนื่องจนเกิดผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรมดังที่ได้เห็นกันในวันนี้ แม้ในวันนี้สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 จะดีขึ้น แต่ขอให้ทุกฝ่ายยังคงทำงานอย่างจริงจัง ดำเนินการตามมาตรการของกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติและข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีทุกด้านอย่างครอบคลุม โดยอาจเพิ่มความเข้มข้นในบางมาตรการเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด และการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้ประชาชนและสร้างการมีส่วนร่วมให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการต่าง ๆ ของภาครัฐ ที่ขอให้ทุกภาคส่วนร่วมกันดำเนินการอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะติดตามสถานการณ์และรายงานข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ให้ประชาชนทราบเป็นระยะ ทาง Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และ X @DDPMNews หากประชาชนต้องการแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือ สามารถแจ้งเรื่องได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 หรือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” @1784DDPM ได้ตลอด 24 ชั่วโมง"
ที่มาข้อมูล : กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
ที่มารูปภาพ : TNN ONLINE