ผู้นำบราซิลเป็นมือสังหารธรรมชาติ? กลุ่มนักเคลื่อนไหวฟ้อง 'โบลโซนาโร' ฐานเติมเชื้อไฟเผา-ทำลายป่าแอมะซอน
กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของออสเตรีย ได้ยื่นฟ้องประธานาธิบดีของบราซิล ต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือ ICC ในข้อหา "อาชญากรรมต่อธรรมชาติ"
กลุ่ม AllRise นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมออสเตรีย เปิดเผยเมื่อวันอังคาร (12 ตุลาคม) ว่า ได้ยื่นเรื่องต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือ ICC ให้เปิดสอบสวนแนวนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนาโร ผู้นำขวาจัดของบราซิล และคณะทำงานของเขา ในข้อหาอาญากรรมต่อมวลมนุษยชาติ
"อาชญากรรมต่อสิ่งแวดล้อม ก็คืออาชญากรรมต่อมวลมนุษยชาติ ซึ่งโบลโซนาโรเป็นผู้เติมเชื้อเพลิงในการทำลายป่าแอมะซอน โดยไม่มีการหลับหูหลับตาแต่อย่างใด และทำไปแม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าผลพวงที่ตามมาจะเป็นอย่างไร" โยฮานเนส เวสส์แมนน์ ผู้ก่อตั้งกลุ่ม AllRise และผู้เริ่มโครงการ ThePlanetV แถลง
◾◾◾
🔴 เชือดไก่ให้ลิงดู?
ข้อมูลล่าสุดบ่งชี้ว่า การปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการตัดไม้ทำลายป่า และการบุกรุกผืนป่าแอมะซอนเพื่อผลประโยชน์ด้านอุตสาหกรรมนั้น สูงกว่าการปล่อยก๊าซประจำปีจากอิตาลี หรือสเปน เสียอีก อีกทั้งยังมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) สูงกว่าปริมาณป่าแอมะซอนที่เหลือจะสามารถดูดซับเอาไว้ได้
เวสส์แมนน์ ระบุว่า ที่จำเป็นต้องยื่นฟ้องเช่นนี้ เพื่อต้องการสร้างความตระหนักรู้ถึงวิกฤตด้านสิ่งแวดล้อมที่กำลังเกิดขึ้น
"เราจำเป็นต้องกำหนดชัยชนะ หากชัยชนะนั้นหมายถึง 'การจำคุกโบลโซนาโร' แน่นอนว่าโอกาสนั้นจะน้อยมาก แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่โครงการ ThePlanetV ต้องการ”
“หากแต่เราต้องการนิยามชัยชนะให้เป็นเหมือนชิ้นส่วนสำคัญในการสร้างความตระหนักรู้ เพื่อให้ศาล ICC ดำเนินการสอบสวนตามที่เราต้องการ และนั่นก็นับว่าประสบความสำเร็จแล้ว เพราะเราเพียงต้องการแบบอย่าง...แบบอย่างที่จะให้ทั่วโลกมองเห็น" เวสส์แมนน์ กล่าว
◾◾◾
🔴 หวังช่วยไม่ให้เกิดความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
"หากเราสามารถทำให้ ICC ดำเนินการสอบสวนโบลโซนาโรได้ นั่นหมายความว่า ผู้นำโลก, นักการเมือง หรือแม้กระทั่ง CEO ก็จะต้องมีความระมัดระวังกันมากขึ้น ในการที่จะตัดสินใจทำสิ่งใดในอนาคต และเขาและเธอก็อาจตระหนักรู้ถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้นได้"
แม้ว่าการยื่นเรื่องต่อศาลโลกที่กรุงเฮกเมื่อวันอังคาร จะไม่ใช่การยื่นฟ้องผู้นำบราซิลครั้งแรก ก่อนหน้านี้เคยมีการยื่นฟ้องผู้นำรายนี้แล้วถึง 3 ครั้ง
กลุ่ม AllRise ระบุว่า การดำเนินการยื่นฟ้องครั้งนี้ แม้จะได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งขันจากชาวบราซิล แต่ทางกลุ่มไม่ได้เป็นตัวแทนของชาวบราซิลแต่อย่างใด จริงอยู่ที่ป่าแอมะซอนเป็นของชาวบราซิล แต่ชาวโลกทุกคนล้วนต้องการป่าที่อุดมสมบูรณ์ผืนนี้ในการใช้ชีวิต
ก่อนหน้านี้ โบลโซนาโรเคยพยายามต่อต้านกระแสวิจารณ์ต่อนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของเขา โดยเขาระบุว่า ป่าแอมะซอนนั้นเป็นของบราซิล และความพยายามในการแทรกแซงนั้นล้วนเป็นไปเพื่อผลประโยชน์ในการกีดกันภาคการเกษตรของประเทศ
◾◾◾
🔴 ทำลายป่าท้องถิ่น ส่งผลกระทบต่อทั้งโลก
กลุ่ม AllRise ยังย้ำด้วยว่ารัฐบาลบราซิลภายใต้การนำของโบลโซนาโร ดำเนินการทั้งทางตรงและทางอ้อมในการทำลายผืนป่านแอมะซอน ซึ่งกระทบต่อระบบนิวเวศน์ ที่ไม่เพียงส่งผลกระทบในระดับท้องถิ่นเท่านั้น หากแต่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงในระดับโลกด้วย
เพราะจากข้อมูลวิจัยล่าสุดพบว่า นโยบายด้านสิ่งแวดล้อมในปัจจุบันของบราซิลนั้น จะส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอันสืบเนื่องจากความร้อนมากถึง 180,000 คน ภายในสิ้นศตวรรษนี้
ขณะที่ข้อมูลการทำลายป่าแอมะซอนพบว่า มีการตัดไม้ทำลายป่าเฉลี่ย 6,500 ตารางกิโลเมตรเมตรต่อปี ระหว่างปี 2009-2018 และสูงขึ้นถึงกว่า 10,500 ตารางกิโลเมตรต่อปี นับตั้งแต่ที่โบลโซนาโรขึ้นดำรงตำแหน่งเมื่อ 1 มกราคม 2019 เป็นต้นมา
ทั้งนี้ การยื่นเรื่องต่อศาลโลกมีขึ้นก่อนที่เหล่าผู้นำโลกจะมีการประชุม COP26 ที่เมืองกลาสโกว์ สก็อตแลนด์ นาน 12 วัน ที่เริ่มต้น 31 ตุลาคมนี้ เพื่อหวังเจรจาช่วยกันหาทางออกเพื่อไม่ให้โลกร้อนขึ้นเกิน 2 องศาเซลเซียส โดยมีเป้าหมายที่จะต้องไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียสจากยุคก่อนอุตสาหกรรม ตลอดจนเป้าหมายในการปล่อยก๊าซเป็นศูนย์ภายในปี 2050
—————
เรื่อง: ภัทร จินตนะกุล
ภาพ: MAURO PIMENTEL / AFP