
ในวันนี้ (24 มีนาคม) ศาลรัฐธรรมนูญเกาหลีใต้ตัดสิน “ยกเลิก” การถอดถอนนายกรัฐมนตรีฮัน ด็อก-ซู และคืนตำแหน่งใshเขาในฐานะรักษาการประธานาธิบดี หลังจากนายฮันถูกรัฐสภาเกาหลีใต้ลงมติถอดถอนออกจากตำแหน่งกรณีที่นายฮันต้องสงสัยว่ามีส่วนร่วมกับการประกาศกฎอัยการศึกของประธานาธิบดียุน ซ็อก-ยอล เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ปีที่แล้ว
ผู้พิพากษาศาลรัฐธรรมนูญ 7 ใน 8 คน ลงคะแนนให้ยกเลิกการถอดถอนนายฮัน โดยศาลให้เหตุผลว่าไม่มีหลักฐานหรือข้อมูลที่จะพิสูจน์ว่า นายฮันได้ดําเนินการอย่างแข็งขันเกี่ยวกับการประกาศกฎอัยการศึกในภาวะฉุกเฉิน แต่ จอง กี-ซุน ผู้พิพากษาหนึ่งเดียวที่ลงมติให้ถอนถอนนายฮันกล่าวว่า การดำเนินการของนายฮันนั้น “ร้ายแรง’ เพียงพอ ที่เขาจะถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง เธอกล่าวด้วยว่าความผิดของนายฮันที่ปฏิเสธที่จะขอคําแนะนําจากที่ปรึกษาพิเศษถาวรเพื่อตรวจสอบข้อกล่าวหาการก่อจลาจลของประธานาธิบดียุนนั้นทำให้นายฮันสมควรแก่การถูกถอดถอน
หลังจากนายฮันได้รับฟังคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญเสร็จสิ้น เขาได้แถลงข่าวต่อหน้าสื่อมวลชนโดยให้คำมั่นว่าหลังจากนี้เขาจะทำงานโดยมุ่งเน้นไปที่ "ผลประโยชน์ของชาติ" เป็นหลักและจะรับฟังเสียงทุกเสียงเพื่อทำให้ประเทศก้าวไปข้างหน้า นอกจากนี้ นายฮันยังได้กล่าวถึงนโยบายด้านภาษีและสงครามการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ด้วยว่า ในฐานะที่เขาได้กลับมาเป็นรักษาการประธานาธิบดีของเกาหลีใต้ เขาและรัฐบาลจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของเกาหลีใต้ซึ่งมีความสำคัญสูงที่สุด ท่ามกลางสงครามการค้าที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน

สรุปข่าว
นายกรัฐมนตรี ฮัน ด็อก-ซู เข้ามาดำรงตำแหน่งรักษาการประธานาธิบดีของเกาหลีใต้หลังจากรัฐสภาลงมติถอดถอนประธานาธิบดี ยุน ซ็อก-ยอล อย่างไรก็ตาม การดำรงตำแหน่งของนายฮันนั้นเกิดขึ้นเพียงระยะเวลาสั้น ๆ เพียงแค่ 2 สัปดาห์ก่อนที่เขาจะถูกรัฐสภาลงมติถอดถอนเช่นเดียวกับประธานาธิบดียุน จึงทำให้ชเว ซัง-ม๊ก รองนายกรัฐมนตรีขึ้นมาดำรงตำแหน่งรักษาการประธานาธิบดีแทนจนถึงปัจจุบัน
แต่การกระทำของนายฮันระหว่างการเป็นรักษาการประธานาธิบดี ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เมื่อเขาได้ปิดกั้นการแต่งตั้งผู้พิพากษาคนใหม่ในศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาคดีของ ยุน ซ็อก-ยอล ซึ่งเป็นสิ่งที่พรรคฝ่ายค้านไม่เห็นด้วยเพราะเกรงว่านายฮันจะใช้โอกาสนี้ในการช่วยเหลือคดีฟ้องร้องของประธานาธิบดียุน
ที่มาข้อมูล : BBC / Reuters / Yonhap
ที่มารูปภาพ : Reuters

ฑิตยา เที่ยงกมล