‘แก๊งเม็กซิโกส่งตัวผู้กระทำผิด’ กรณีลักพาตัวชาวอเมริกัน 4 คน พร้อมจดหมายขอโทษเหยื่อ-ครอบครัว
จากกรณีที่ชาวอเมริกัน 4 คน ข้ามพรมแดนไปรับบริการทางการแพทย์ที่เม็กซิโก แต่กลับถูกลักพาตัวและเสียชีวิตลง 2 คน ล่าสุดแก๊งอาชญากรรมเก่าแก่ในเม็กซิโกได้ส่งตัวชาย 5 คนให้ทางการ ระบุว่า เป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุลักพาตัวดังกล่าว
---แก๊งเม็กซิโกส่งตัวผู้กระทำผิด พร้อมขอโทษเหยื่อ-ครอบครัว---
กรณีที่ชาวอเมริกัน 4 คน ข้ามพรมแดนไปรับบริการทางการแพทย์ที่เม็กซิโก แต่กลับถูกลักพาตัวและเสียชีวิตลง 2 คนนั้น กระทบต่อความสัมพันธ์ของสหรัฐฯ กับเม็กซิโก ก่อนหน้านี้ผู้นำเม็กซิโกประกาศว่า จะไม่ให้สหรัฐฯ มาก้าวก่ายการทำงานของรัฐบาล ล่าสุดก็แสดงความไม่พอใจ หลังสมาชิกสภาคองเกรสของสหรัฐฯ เสนอให้ทหารอเมริกันข้ามพรมแดน เข้าไปปฏิบัติภารกิจปราบแก๊งค้ายาเสพติดในเม็กซิโก ชี้ว่า เป็นการละเมิดอธิปไตยอย่างร้ายแรง
ล่าสุดมีรายงานจากเมืองมาทาโมรอส เมืองชายแดนเม็กซิโก ระบุว่า กลุ่มพันธมิตร ‘Gulf Cartel’ ที่เรียกว่า กลุ่ม ‘Scorpions’ ส่งตัวชาย 5 คน ที่ระบุว่าเกี่ยวข้องกับการลักพาตัวพลเมืองสหรัฐฯ 4 คน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
หนังสือพิมพ์หลายฉบับของเม็กซิโกพาดหัวข่าวหน้าหนึ่ง ตีพิมพ์ภาพถ่ายที่แสดงให้ภาพชาย 5 คนนอนคว่ำหน้าอยู่กับพื้น ถูกมัดมือ และเสื้อยืดถูกดึงขึ้นเหนือศีรษะ
จดหมายจากกลุ่ม ‘Scorpions’ ที่ถูกทิ้งไว้กับพวกเขา ระบุว่า ขอโทษต่อชาวเมืองมาทาโมรอส เหยื่อชาวอเมริกันและครอบครัวของพวกเขา รวมถึงผู้หญิงชาวเม็กซิกันที่ถูกสังหารเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จากเหตุการณ์แก๊งดังกล่าว ยิงใส่รถมินิแวนสีขาวที่ชาวอเมริกันโดยสารอยู่
จดหมาย ยังระบุว่า ‘Scorpions’ ตัดสินใจส่งตัวผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรงและรับผิดชอบเหตุการณ์นี้ ทั้ง 5 คน ดำเนินการภายใต้การตัดสินใจของตนเองและขาดระเบียบวินัย และละเมิดกฎของพันธมิตรเรื่องการปกป้องชีวิตของผู้บริสุทธิ์
มีรายงานว่า คลินิกสุขภาพในมาทาโมรอส ซึ่งสมาชิกกลุ่มอาชญากรรมระบุว่า เป็นสถานที่พลเมืองสหรัฐฯ ที่ได้รับบาดเจ็บไปรักษานั้น ถูกตำรวจปิดล้อม รายงานระบุว่าชาวอเมริกันทั้งสี่คนถูกแก๊งจับตัวไปที่นั่นสองคนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสที่สุดคือ เชอีด วูดดาร์ด และซินเดลล์ บราวน์ เสียชีวิตหลังจากนั้นไม่นาน
---สื่อนอกเผย เหยื่อลักพาตัว มีความผิดเกี่ยวข้องยาเสพติด---
สำนักข่าว Reuters รายงานว่า เจ้าหน้าที่เม็กซิโกได้มอบร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คนให้กับเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ในเมืองมาทาโมรอสแล้วเมื่อบ่ายวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (9 มีนาคม) และถูกส่งกลับไปยังสหรัฐฯ
สำนักข่าว Reuters รายงานว่าชาวอเมริกัน 3 ใน 4 ที่ถูกลักพาตัว มีความผิดฐานเกี่ยวข้องกับยาเสพติดเป็นหลัก แต่มีคนหนึ่งถูกตั้งข้อหาผลิตสารเสพติดต้องห้าม โดยมีเจตนาเพื่อจำหน่าย
สำนักข่าว Reuters รายงานว่า เห็นเอกสารการบังคับใช้กฎหมายภายใน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ทางการเม็กซิโกกำลังสืบสวนความเป็นไปได้ที่ชาวอเมริกัน 4 คนถูกลักพาตัวไป เนื่องจากถูกเข้าใจผิดว่าเป็นสมาชิกกลุ่มพันธมิตรที่รุกล้ำพื้นที่ของพวกเขา
คำถามเกี่ยวกับปูมหลังของชาวอเมริกันเกิดขึ้น ท่ามกลางอุณหภูมิทางการเมืองเกี่ยวกับเหตุการณ์ในมาทาโมรอสยังคงเพิ่มสูงขึ้น
---ผู้นำเม็กซิโกไม่พอใจ เหตุคองเกรสเสนอส่งทหารข้ามพรมแดน---
ณ สหรัฐอเมริกา นักการเมืองพรรครีพับลิกันหลายคน รวมทั้งลินด์ซีย์ เกรแฮม วุฒิสมาชิกรัฐเซาท์แคโรไลนา เรียกร้องให้ใช้กำลังทหารสหรัฐฯ ต่อกรกับแก๊งค้ายาเสพติดของเม็กซิโก และเสนอแผนที่จะกำหนดให้กลุ่มค้ายาเม็กซิกันเป็น "องค์กรก่อการร้ายต่างชาติ" เพื่อที่จะ "ปลดปล่อยความโกรธแค้นและพลังของสหรัฐฯ ต่อพวกเขา"
วาทกรรมดังกล่าว ส่งผลให้ประธานาธิบดีอันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ ของเม็กซิโกตอบโต้อย่างรุนแรงว่า ว่า "เม็กซิโกไม่ใช่รัฐในอารักขาหรืออาณานิคมของสหรัฐฯ" และเรียกข้อเสนอของวุฒิสมาชิกเกรแฮม สำหรับการแทรกแซงทางทหารว่าเป็นเรื่องที่ "รับไม่ได้"
ท่ามกลางความสัมพันธ์ที่ตึงเครียด ลิซ เชอร์วูด-แรนดัลล์ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ กำลังอยู่ในเม็กซิโก เพื่อพบปะกับประธานาธิบดีโลเปซ โอบราดอร์ เพื่อหารือเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ที่เลวร้ายลงของเฟนทานิลและโอปิออยด์สังเคราะห์ในสหรัฐฯ
เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (3 มีนาคม) ชาวอเมริกัน 4 คน ถูกพบในบ้านไม้หลังหนึ่ง ใกล้กับเมืองมาตาโมรัส รัฐตาเมาลิปัส เมืองพรมแดนเม็กซิโกที่ติดกับรัฐเท็กซัส ของสหรัฐฯ หลังจากที่ทั้ง 4 คนถูกลักพาตัวไป ภายหลังพบว่า 2 คนเสียชีวิต
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดี ‘โลเปซ โอบราดอร์’ ของเม็กซิโก ระบุว่า จะไม่ให้สหรัฐฯ แทรกแซงการทำงานของรัฐบาล ระบุว่า ประธานาธิบดี ‘โจ ไบเดน’ ก็ได้บอกแล้วว่า จะเคารพอธิปไตยของเม็กซิโก ซึ่งเขาก็ยินดีมาก เนื่องจากเม็กซิโกไม่ใช่อาณานิคมของใคร พร้อมแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ขณะที่ จอห์น เคอร์บี โฆษกฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติประจำทำเนียบขาว ระบุว่า การโจมตีพลเมืองอเมริกันเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ ไม่ว่าที่ไหน หรือในสถานการณ์ใดก็ตาม และย้ำว่า สหรัฐฯ ได้ทำงานร่วมกับรัฐบาลเม็กซิโก เพื่อมั่นใจว่าความยุติธรรมจะเกิดขึ้น
—————
แปล-เรียบเรียง: สุภาพร เอ็ลเดรจ
ภาพ: Reuters
ข้อมูลอ้างอิง:
