TNN กฎหมายห้ามมีเพศสัมพันธ์นอกสมรสของอินโดนีเซีย ส่งผลต่อการท่องเที่ยวอย่างไร

TNN

World

กฎหมายห้ามมีเพศสัมพันธ์นอกสมรสของอินโดนีเซีย ส่งผลต่อการท่องเที่ยวอย่างไร

กฎหมายห้ามมีเพศสัมพันธ์นอกสมรสของอินโดนีเซีย ส่งผลต่อการท่องเที่ยวอย่างไร

อินโดนีเซียผ่านกฎหมายอาญาฉบับใหม่ห้ามมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงานและนอกสมรส ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก และกังวลว่าจะส่งผลต่อการท่องเที่ยว



---ร่างกฎหมายใหม่ อาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อการท่องเที่ยว---


การท่องเที่ยวของอินโดนีเซียเพิ่งจะเริ่มฟื้นตัวจากวิกฤตโควิด-19 แต่ขณะนี้รัฐสภาอินโดนีเซียกลับออกกฎหมายใหม่อันเป็นการทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวอย่างรุนแรง คือ ร่างกฎหมายห้ามบุคคลมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงาน และนอกสมรส รวมถึงการอยู่กินฉันสามีภรรยาของคู่รักที่ยังไม่แต่งงาน ผู้ฝ่าฝืนมีโทษมีโทษจำคุกสูงสุด 1 ปี นอกจากนี้ ยังผ่านร่างกฎหมายห้ามดูหมิ่นประธานาธิบดีและหน่วยงานของรัฐและการแสดงความเห็นขัดต่ออุดมการณ์ของรัฐ


---กลุ่มธุรกิจเตือน ร่างกฎหมายใหม่ทำลายท่องเที่ยว-ลงทุน---


ขณะที่กลุ่มธุรกิจต่าง ๆ ได้ออกมาเตือนว่ากฎหมายดังกล่าวอาจทำลายภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยว และการลงทุนของอินโดนีเซีย อีกทั้งยังมีความกังวลว่ากฎหมายเหล่านี้ อาจส่งผลกระทบอย่างหนักต่อกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ หรือ LGBTQ ในอินโดนีเซีย เนื่องจากกฎหมายอินโดนีเซียไม่อนุญาตให้บุคคลเพศเดียวกันแต่งงานได้ 


กฎหมายนี้ยังบังคับใช้กับชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในอินโดนีเซีย และนักท่องเที่ยวระยะสั้นด้วย 


กฎหมายห้ามมีเพศสัมพันธ์นอกสมรสของอินโดนีเซีย ส่งผลต่อการท่องเที่ยวอย่างไร


---‘เกาะบาหลี’ หวั่นกระทบหนักจากร่างกฎหมายห้ามมีเพศสัมพันธ์นอกสมรส---


ไปดูที่เกาะบาหลี ของอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวจำนวนมากต่างบินมาที่เกาะแห่งนี้ในทุก ๆ เดือน เนื่องจากบรรยากาศดี อากาศอบอุ่น และสามารถจัดปาร์ตี้ริมชายหาดได้ตลอดทั้งคืน


โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลีย ที่เดินทางมายังบาหลีปีละกว่า 1 ล้านคน ข้อมูลจากสถาบันอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรในเมืองเพิร์ธ ของออสเตรเลีย เปิดเผยว่า ในปี 2019 ก่อนเกิดวิกฤตโควิด-19 มีนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียเดินทางมากว่า 1.23 ล้านคน จึงทำให้นักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียกังวลเป็นอย่างมากกับร่างกฎหมายใหม่นี้ว่าจะส่งผลกระทบอย่างไร


แต่ทางโฆษกกระทรวงยุติธรรมของอินโดนีเซียก็ออกมาตอบโต้ว่า ขอให้นักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียไม่ต้องเป็นกังวล เนื่องจากความเสี่ยงต่ำ ส่วนใหญ่จะเป็นชาวอินโดนีเซียเองมากกว่าที่ถูกบังคับใช้กฎหมายนี้ 


ด้าน ‘โยมาน’ ไกด์นำเที่ยวที่อยู่ที่เกาะบาหลีมาตั้งแต่ปี 2017 บอกกับสื่อมวลชนว่า กฎหมายใหม่ที่เตรียมบังคับใช้นี้ เป็นการทำลายอินโดนีเซียอย่างร้ายแรง โดยเฉพาะที่เกาะบาหลีแห่งนี้ เนื่องจากประเทศต้องพึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นหลัก 


และแน่นอนว่ามันไม่ได้กระทบแค่ชาวออสเตรเลีย แต่ส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวทั้งหมด ซึ่งบล็อกเกอร์ท่องเที่ยวชาวแคนาดารายหนึ่ง ที่ย้ายมาอยู่ที่เกาะบาหลีได้ 18 เดือนแล้ว บอกกับสื่อมวลชนว่า เธอรู้สึกช็อกเมื่อเห็นข่าว และบอกว่านักท่องเที่ยวจะหนีไปที่อื่นแน่นอน ดีกว่าต้องมาเสี่ยงติดคุก เมื่อกฎหมายเริ่มบังคับใช้ 


ทั้งนี้ จากข้อมูลของ ‘สตาทิสตา’ (Statista) เผยว่า เมื่อปี 2021 มีนักท่องเที่ยวเพียง 51 คนเท่านั้นที่มาเที่ยวที่เกาะบาหลี เนื่องจากโควิด-19 ระบาด แต่ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา สำนักงานสถิติแห่งชาติอินโดนีเซียเผย มีนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 470,000 คน เดินทางเข้ามาในประเทศ เป็นสถิติสูงที่สุดหลังผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 นับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2021 


---ร่างกฎหมายนี้ยังไม่บังคับใช้ในอีก 3 ปีข้างหน้า


ด้านกลุ่มสิทธิได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ประมวลกฎหมายอาญาฉบับใหม่ว่าเปรียบเสมือนตำรวจศีลธรรม ส่วนนักเคลื่อนไหวได้ร่วมกันประณามกฎหมายนี้ว่าเป็นการลงโทษพลเมืองและปราบปรามเสรีภาพทางการเมืองอย่างรุนแรง 


อย่างไรก็ตาม กฎหมายดังกล่าวจะยังไม่มีผลบังคับใช้ในอีก 3 ปีข้างหน้า เนื่องจากกำลังร่างแนวทางการดำเนินการ แต่ปัจจุบันอินโดนีเซียก็มีกฎหมายห้ามค้าประเวณีอยู่แล้ว

—————

แปล-เรียบเรียง: พิชญาภา สูตะบุตร

ภาพ: Reuters


ข้อมูลอ้างอิง:

Click

ข่าวแนะนำ