ระบบเตือนทำนายภัยจาก ‘ภูเขาไฟตองกา’ต่ำไปช็อกเวฟกระแทกแรงทุบสถิติ
นักวิทยาศาสตร์เผย แบบจำลองประเมินคลื่นกระแทกอันเกิดจากภูเขาไฟตองกาปะทุต่ำเกินไป เพราะในความเป็นจริงแล้ว คลื่นกระแทกขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยพบมา
วันนี้ ( 29 ม.ค. 65 )การปะทุของภูเขาไฟในประเทศตองกา เมื่อวันที่ 15 มกราคม ได้ส่งคลื่นกระแทกรบกวนคลื่นวิทยุ ที่กระจายออกไปเกือบความเร็วเสียง ส่งผลให้เกิดคลื่นขนาดใหญ่กระทบพื้นที่ทั่วมหาสมุทรแปซิฟิก ตั้งแต่ชายฝั่งญี่ปุ่น ไปจนถึงชายฝั่งเปรูในทวีปอเมริกาใต้ ซึ่งสองประเทศนี้ อยู่ห่างกันหลายพันกิโลเมตร แต่การทำนายของระบบเตือนภัยและแบบจำลอง ไม่สามารถพยากรณ์ได้อย่างถูกต้อง เมื่อเกิดคลื่นซัดฝั่ง
ภาพถ่ายดาวเทียมของมหาวิทยาลัยแมสซาชูเซตต์ โลเวลล์ ระบุว่า คลื่นกระแทกขนาดใหญ่ อันเกิดจากการปะทุของภูเขาไฟ”ฮังกา ตองกา-ฮังกา ฮาอาปาย” ก่อให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิ กวาดทำลายหมู่บ้านและรีสอร์ตต่างๆ จนราบเป็นหน้ากลอง รวมถึงตัดการสื่อสารทั้งหมดในตองกา ซึ่งมีประชากรราว 105,000 คน และมีผู้เสียชีวิต 3 ราย
อย่างไรก็ตาม ชาวตองกา มีเครื่องมือจัดการคลื่นสึนามิ เนื่องจากตองกา ประเทศหมู่เกาะขนาดเล็ก ถูกมองว่า เป็นประเทศที่มีการเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติทางธรรมชาติมากที่สุด และมีการซ้อมรับมือสึนามิมานานหลายปี ดังนั้นประชาชนชาวตองกาจำนวนมาก จึงรู้วิธีอพยพไปอยู่บนที่สูง แต่ประเทศเปรู ในอเมริกาใต้ ซึ่งอยู่ห่างจากตองกาอย่างมาก ขาดข้อมูลที่แม่นยำ จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 รายจากคลื่นสูงผิดปกติ
เฮอร์มันน์ ฟริตซ์ วิศวกรโยธาแห่งมหาวิทยาลัยจอร์เจีย เทค ซึ่งเป็นผู้ศึกษาคลื่นยักษ์สึนามิ เปิดเผยว่า มีความจำเป็นต้องประเมินกันใหม่ เพราะสึนามิอันตราย และสึนามิที่มีสาเหตุมาจากภูเขาไฟไม่ค่อยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ และคลื่นกระแทกจากภูเขาไฟของตองกา ถือเป็นคลื่นกระแทกขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยบันทึกมา คล้ายคลึงกับคลื่นกระแทก ที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟกรากะตัวในอินโดนีเซียเมื่อปี 1883
นอกจากนี้ คลื่นกระแทกจากภูเขาไฟตองกา เคลื่อนไหวได้ไกลกว่า 300 เมตรต่อวินาที และเป็นคลื่นกระแทกที่ทรงพลัง
ภาพจาก : รอยเตอร์