5 มหาอำนาจนิวเคลียร์ประกาศร่วมกันป้องกันสงครามนิวเคลียร์ปะทุโลก
5 ชาติมหาอำนาจนิวเคลียร์ ซึ่งได้แก่จีน, รัสเซีย, อังกฤษ, สหรัฐฯ และฝรั่งเศส ออกแถลงการณ์ร่วม ตกลงเห็นพ้องต้องกันป้องกันการเกิดสงครามนิวเคลียร์และหลีกเลี่ยงการแข่งขันสะสมอาวุธนิวเคลียร์ พร้อมยอมรับว่า จะไม่มีใครเป็นผู้ชนะในการทำสงครามนิวเคลียร์
ทำเนียบเครมลินของรัสเซียเผยแถลงการณ์ร่วมระหว่าง 5 ชาติมหาอำนาจนิวเคลียร์ของโลก ที่มีสาระสำคัญคือ จีน รัสเซีย ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร และสหรัฐฯ เห็นพ้องที่ว่าควรหลีกเลี่ยงสงครามและการขยายอาวุธนิวเคลียร์เพิ่มเติม
แถลงการณ์ระบุว่า ทั้งห้าชาติ ซึ่งเป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ พิจารณาถึงความรับผิดชอบหลักในการเลี่ยงสงครามระหว่างชาตินิวเคลียร์ และลดความเสี่ยงทางยุทธศาสตร์ ในขณะเดียวก็ตั้งเป้าทำงานร่วมกับทุกประเทศ เพื่อสร้างบรรยากาศของความมั่นคง
นอกจากนี้ ยังยืนยันว่า “สงครามนิวเคลียร์จะไม่มีผู้ชนะ เพราะฉะนั้นเราไม่ควรเริ่มต้นสงคราม” เพราะการใช้นิวเคลียร์จะส่งผลกระทบในวงกว้าง และอาวุธนิวเคลียร์ ตราบเท่าที่ยังคงมีอยู่ ควรใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการป้องกัน ยับยั้งการรุกราน และป้องกันการเกิดสงคราม เราเชื่ออย่างยิ่งว่าจะต้องป้องกันไม่ให้การแพร่ขยายของอาวุธนิวเคลียร์มากกว่านี้
---ยึดมั่นในสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์---
แถลงการณ์ระบุว่า เรายืนยันถึงความสำคัญในการแก้ปัญหาภัยคุกคามนิวเคลียร์ และย้ำถึงความสำคัญของการรักษาและปฏิบัติตามข้อตกลงและข้อผูกมัดเกี่ยวกับการไม่แพร่กระจายอาวุธ, การลดอาวุธ และการควบคุมอาวุธทั้งระดับทวิภาคีและพหุภาคี
เรายังคงยึดมั่นในข้อผูกพันตามสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ หรือเอ็นพีที (NPT) ซึ่งมีผลบังคับใช้ครั้งแรกในปี 1970 รวมถึงพันธสัญญาในมาตรา 6 ที่ดำเนินการเจรจาโดยสุจริตใจเกี่ยวกับมาตรการที่มีประสิทธิภาพที่เกี่ยวข้องกับการยุติการแข่งขันสะสมอาวุธนิวเคลียร์และการปลดอาวุธนิวเคลียร์ และในสนธิสัญญาว่าด้วยการลดอาวุธทั่วไปและโดยสมบูรณ์ภายใต้การควบคุมระหว่างประเทศที่เข้มงวดและมีประสิทธิภาพ
มหาอำนาจนิวเคลียร์ระบุเพิ่มเติมว่า เราล้วนตั้งใจที่จะรักษาและเสริมสร้างมาตรการระดับชาติของเราเพื่อป้องกันการใช้อาวุธนิวเคลียร์โดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่ได้ตั้งใจ
ด้านฝรั่งเศสออกแถลงการณ์เช่นกัน ระบุว่า ทั้งห้าชาติมหาอำนาจเน้นย้ำความตั้งใจในการควบคุมอาวุธนิวเคลียร์และการปลดอาวุธนิวเคลียร์ นอกจากนี้ จะเดินหน้าใช้แนวทางทั้งทวิภาคีและพหุภาคีในการควบคุมอาวุธนิวเคลียร์
---สถานการณ์เลวร้ายสุดนับแต่สงครามเย็น---
แถลงการณ์ร่วมที่เกิดขึ้นได้ยากของ 5 ชาติมหาอำนาจนิวเคลียร์ เกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและสหรัฐฯ ที่เลวร้ายสุดนับตั้งแต่สงครามเย็น จากกรณีรัสเซียเสริมทหารติดชายแดนยูเครน จนทำให้ชาติตะวันตกมองว่า รัสเซียอาจกำลังเตรียมโจมตียูเครนครั้งใหม่ ขณะที่อิทธิพลที่แผ่ขยายของจีน ก็ทำให้เกิดความตึงเครียดกับสหรัฐฯ รวมไปถึงประเด็นไต้หวัน ที่จีนเน้นย้ำในนโยบายจีนเดียว
ด้านรัสเซียยินดีกับคำประกาศนี้ และแสดงความหวังว่าจะช่วยลดความตึงเครียดของโลกลงได้
ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซียกล่าวว่า รัฐบาลรัสเซียยังคงคิดว่าการประชุมสุดยอดระหว่างชาติมหาอำนาจนิวเคลียร์นั้นจำเป็น
ส่วนสำนักข่าว Xinhua ของจีน รายงานอ้างคำกล่าวของรัฐมนตรีช่วยต่างประเทศของจีน หม่า จ้าวซู ที่ระบุว่า คำมั่นสัญญาดังกล่าวจะช่วยเพิ่มความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน และเพิ่มการประสานงานและความร่วมมือกันในกลุ่มประเทศมหาอำนาจแทนการแข่งขัน
แถลงการณ์นี้มีขึ้นในช่วงเวลาที่ชาติมหาอำนาจพยายามหาทางบรรลุข้อตกลงกับอิหร่านในการฟื้นฟูข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 ซึ่งสหรัฐฯ นำโดยอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ถอนตัวออกไปในปี 2018 แต่รัฐบาลชุดใหม่ภายใต้การนำของโจ ไบเดน ต้องการฟื้นฟูของตกลงนี้ และเน้นน้ำว่า เวลาในการบรรลุข้อตกลงใกล้หมดแล้ว
—————
แปล-เรียบเรียง: สันติ สร้างนอก
ภาพ: Fan Lingzhi/GT