น้ำท่วมใหญ่บราซิลทำลายวัคซีนโควิดไปมหาศาล
น้ำท่วมครั้งใหญ่ในบราซิล นอกจากจะทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 คน และต้องอพยพหลายหมื่นคน นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อการควบคุมโควิด-19 ด้วย เพราะส่งผลให้ศูนย์ฉีดวัคซีนในพื้นที่ประสบภัยจมอยู่ใต้บาดาล บางแห่งวัคซีนต้านโควิดได้รับความเสียหายทั้งหมด
ทางการบราซิลเปิดเผยว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์น้ำท่วมหนักและเขื่อนแตก 2 แห่ง ในรัฐบาเยีย ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ล่าสุด เพิ่มเป็น 20 คนแล้ว และประชาชนต้องพลัดถิ่นประมาณ 62,800 คน บ้านเรือนเสียหายอย่างน้อย 5,000 หลัง
รูอี คอสตา ผู้ว่าการรัฐบาเยีย ระบุว่า น้ำท่วมครั้งนี้ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 358 คน ส่งผลกระทบต่อผู้คนมากกว่า 470,000 คนที่อาศัยอยู่ใน 116 เมือง และโครงสร้างพื้นฐานได้รับความเสียหายมหาศาล
พร้อมกับระบุว่า ขณะนี้พวกเขาต้องเผชิญกับ a perfect storm นั่นคือทุกสิ่งอย่างที่เลวร้ายโหมกระหน่ำมาพร้อม ๆ กัน ทั้งภัยพิบัติทางธรรมชาติ และโรคระบาด 2 อย่างในเวลาเดียวกัน นั่นคือโควิด-19 และ ไข้หวัดใหญ่ ซึ่งส่งผลกระทบทั่วประเทศ
ขณะที่ยาและวัคซีนโควิด-19 ถูกทำลาย ในหลายเมืองที่ประสบอุทกภัยบางพื้นที่ ยาและวัคซีนทั้งหมดเสียหาย 100% เพราะคลังยาของทางการจมอยู่ใต้บาดาลทั้งหมด
คอสตาระบุว่า ระดับน้ำที่ท่วมครั้งนี้เป็นภัยพิบัติที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐบาเยีย มันน่ากลัวจริง ๆ มีบ้านเรือนและถนนมากมายที่ถูกน้ำท่วมจนมิด เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาได้เดินทางไปยังเมืองอิโตโรโร พบว่า สองชั้นแรกของอาคารสำนักงานนายกเทศมนตรีถูกน้ำท่วมจนหมด และวัคซีนที่ศูนย์สุขภาพของเมืองได้รับความเสียหายทั้งหมด
ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้ คือต้องจัดหาวัคซีน ยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นมาทดแทนอย่างเร่งด่วน และยังบอกด้วยว่าสถานที่หลายแห่งใน รัฐบาเยีย มีสภาพเหมือนถูกโจมตีทางอากาศด้วยระเบิดหรือผ่านสงครามมาเลย
สำหรับความเสียหายจากน้ำท่วมตอนนี้ บอกได้เพียงมหาศาล แต่ยังระบุตัวเลขไม่ได้ ต้องรอให้น้ำลดลงเสียก่อน จึงจะรู้ว่าต้องซ่อมแซมถนนและสะพานที่ได้รับความเสียหายเท่าไหร่
---คริสต์มาสให้กลายเป็นฝันร้าย---
วิตอเรีย โรชา วัย 81 ปี หนึ่งในผู้ประสบภัยเล่าว่า เธอและครอบครัวต้องอพยพหนีน้ำท่วมตอนตี 3 ของวันคริสต์มาส
ขณะที่จูเลียนา เรอิส วัย 37 ปี เพิ่งจะได้กลับมาพบหน้าพ่อแม่ในเมืออิเตมเบอีกครั้งในวันคริสต์มาส หลังจากที่ห่างกันหลายเดือนเนื่องจากการระบาดของโควิด-19
แต่เจอกันได้ไม่นาน คริสต์มาสของพวกเขาก็กลับกลายเป็นฝันร้าย เพราะทั้งครอบครัวต้องว่ายน้ำอพยพหนีน้ำท่วมตอนเที่ยงคืน และสามีของเธอเกือบเสียชีวิต เพราะพยายามช่วยเหลือผู้ประสบภัยคนหนึ่ง
---ปัญหาโลกร้อนเป็นสาเหตุ---
ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักยาวนานเกือบสองเดือน ส่งผลให้เขื่อนอิกวา ในเมืองอิตัมเบทางตอนใต้ของรัฐบาเยียแตกเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา (25 ธันวาคม) และตามมาด้วยเขื่อนอีกแห่งในเมืองจุสเซียเปที่อยู่ห่างกัน 100 กิโลเมตรไปทางเหนือ แตกในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (26 ธันวาคม) ทำให้ต้องอพยพประชาชนอย่างเร่งด่วน มีรายงานว่า เมืองต่าง ๆ อย่างน้อย 5 รัฐในตอนเหนือและตะวันออกเฉียงใต้ของบราซิลก็ถูกน้ำท่วมในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเช่นกัน
หลังจากเผชิญภัยแล้งที่รุนแรงมายาวนานหลายเดือน รัฐบาเยียประสบอุทกภัยเป็นเวลาหลายสัปดาห์ ฝนตกหนักเป็นประวัติการณ์ สถานการณ์เลวร้ายลงอย่างมากในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา และคาดการณ์ว่าจะมีฝนตกเพิ่มขึ้นในบางภูมิภาค
เว็บไซต์ศูนย์เฝ้าระวังภัยพิบัติของทางการระบุว่า นี่เป็นช่วงเวลาที่ฝนตกชุกที่สุดในรัฐบาเยีย ในช่วง 32 ปีที่ผ่านมา แต่ในปีนี้ทางตอนใต้ของรัฐบาเยีย มีฝนตกมากกว่าปกติถึงห้าเท่าในช่วงเวลานี้ของปี
เอแดร์ อาเกียร์ นายกเทศมนตรีเมืองจุสเซียเป ระบุว่า ปัญหาสภาพการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นต้นเหตุของหายนะครั้งนี้ เราทราบดีว่าฝนสามารถมองเป็นพรจากพระเจ้าได้ แต่เนื่องจากความไม่สมดุลทางนิเวศวิทยาที่เกิดจากมนุษย์ ทำให้ฝนตกมากเกินไป และทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรง
คาร์ลอส โนบรี นักภูมิอากาศวิทยาชี้ว่า ฝนตกหนักในรัฐบาเยียเกิดจากภาวะโลกร้อน เพราะการระเหยของน้ำในทะเลมีมากขึ้น และมีน้ำในชั้นบรรยากาศโลกมากเกินไป และปรากฏการณ์เหล่านี้จะกลายเป็นเรื่องพบเห็นทั่วไปมากขึ้นเรื่อย ๆ
---อนุมัติเงินฟื้นฟูมหาศาล---
ด้านประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนาโร ผู้นำของบราซิล ซึ่งขณะนี้กำลังพักผ่อนอยู่ในรัฐซานตา กาตารีนา ทางตอนใต้ ทวีตข้อความเมื่อวันอังคารว่า (28 ธันวาคม) อนุมัติเงิน 200 ล้านเรียล หรือประมาณ 1,175 ล้านบาท เพื่อซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับความเสียหายจากภัยพิบัติในพื้นที่ต่าง ๆ แล้วโดยเฉพาะรัฐบาเยียที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด
นอกจากต้องเร่งช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ผู้ประสบภัยแล้ว และควบคุมโควิด-19 ไปพร้อม ๆ กัน พร้อมกับจัดหาวัคซีนและอุปกรณ์ทางการแพทย์มาทดแทนส่วนที่เสียหาย
ทางการบราซิลยังต้องเฝ้าระวังเขื่อนอีก 5 แห่งในรัฐบาเยียแตกด้วย
—————
แปล-เรียบเรียง: สุภาพร เอ็ลเดรจ
ภาพ: Reuters