
องค์การสหประชาชาติ ได้ประกาศให้วันที่ 22 มีนาคม ของทุกปีถูกกำหนดให้เป็น "วันน้ำโลก" เพื่อสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำและกระตุ้นให้ประชาคมโลกอนุรักษ์ ฟื้นฟู และใช้ทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลให้ธารน้ำแข็งละลายอย่างรวดเร็ว สร้างผลกระทบต่อระบบนิเวศและการดำรงชีวิตของมวลมนุษยชาติ รวมถึงประเทศไทยที่ได้รับผลกระทบทั้งจากสถานการณ์ภัยแล้งและอุทกภัย
นอกจากนี้ องค์การสหประชาชาติ ยังกำหนดให้ ปี 2568 เป็น “ปีสากลแห่งการอนุรักษ์ธารน้ำแข็ง” ภายใต้หัวข้อ “Glacier Preservation” เพื่อให้ทุกประเทศตระหนักถึงแหล่งน้ำจืดสำคัญที่หล่อเลี้ยงระบบนิเวศและควบคุมสภาพภูมิอากาศของโลก

สรุปข่าว
ทั้งนี้ รัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างบูรณาการ และดำเนินนโยบายที่สอดคล้องกับแนวทางของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ เป้าหมายที่ 6 การจัดหาน้ำสะอาดและการสุขาภิบาล โดยเน้นการจัดหาแหล่งน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคให้ประชาชนอย่างเพียงพอ เพื่อรองรับการเติบโตของเมืองและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก รวมทั้งมุ่งเน้นการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ แก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน ส่งเสริมให้ประชาชนทุกภาคส่วนร่วมอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ ด้วยการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน