เปิดประมูลข้าวเก่า 10 ปีกลางเดือนพ.ค. คาดมูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 270 ล้าน
เปิดประมูลข้าวเก่า 10 ปีกลางเดือนพ.ค. คาดได้มูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 270 ล้านบาท ก่อนส่งเงินคืนคลังปิดบัญชีโครงการ
นายกฤษณรักษ์ ใจดี รักษาการผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ อคส.อยู่ระหว่างการพิจารณาออกหลักเกณฑ์เงื่อนไขการเปิดประมูล (ทีโออาร์) หลังจากนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้าวสารในสต๊อกของรัฐบาล ตามโครงการรับจำนำข้าวปี 2556/2557 ที่โกดังเก็บข้าวในจังหวัดสุรินทร์ เพื่อพิสูจน์คุณภาพของข้าวไปแล้ว โดย อคส.เตรียมเปิดทีโออาร์กลางเดือนพฤษภาคมนี้ คาดว่าเดือนมิถุนายนจะได้ผู้ชนะประมูล
ส่วนราคาขาย คาดว่าน่าจะได้ไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 18 บาท หรือได้มูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 270 ล้านบาท หลังจากนั้นจะนำเงินส่งคืนคลัง และปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวได้ทั้งหมด ซึ่งการระบายข้าวที่ผ่านมาจากทั้ง 6 โครงการรับจำนำข้าวตั้งแต่ปี 2551/2552 ถึง 2556/2557 ระบายออกไปแล้ว 44 ครั้ง ประมาณ 13 ล้าน 8 แสนตัน จาก 13 ล้าน 9 แสนตัน มูลค่าที่ระบายได้แล้ว 105,000 ล้านบาท ยังคงเหลือ 15,000 ตัน จึงต้องระบายต่อไป
สำหรับข้าวที่จะนำมาประมูล คือ คลังกิตติชัย หลัง 2 (ข้าวหอมมะลิ100เปอร์เซ็นต์) เก็บข้าวแล้ว 10 ปี 2 เดือน ระบายข้าวสารแล้ว 3 ครั้ง คงเหลือ 11,656 ตัน หรือ 112,711 กระสอบ คลัง บจก.พูนผลเทรดดิ้ง หลัง 4 (ข้าวหอมมะลิ 100 เปอร์เซ็นต์) เก็บข้าวแล้ว 10 ปี 7 วัน ระบายข้าวสารแล้ว 4 ครั้ง คงเหลือ 3,356 ตัน หรือ 32,879 กระสอบ
ทั้งนี้ กรณีพิสูจน์ว่าข้าวมีความปลอดภัยสามารถบริโภคได้หรือไม่นั้น อคส.มีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบคุณภาพข้าวในช่วงก่อนฝากเก็บข้าวในโกดัง และตลอดระยะเวลาการฝากเก็บ แต่ไม่มีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบความปลอดภัยของข้าว โดยเป็นหน้าที่ของผู้ที่จะเข้าร่วมประมูลมากกว่า ซึ่งก่อนการนำข้าวไปขายสู่ผู้บริโภคโดยทั่วไปผู้ชนะประมูลต้องปรับปรุงคุณภาพข้าวก่อนอยู่แล้ว เช่น การอบข้าว ขัดสี แยกเมล็ดแตกหักออก แต่ทราบว่าผู้ส่งออกสนใจประมูลเพื่อส่งออก เพราะมีหลายประเทศที่นิยมบริโภคข้าวเก่า ข้าวสีเหลือง ไม่นิยมข้าวเมล็ดสีขาว เช่น ประเทศในแถบแอฟริกา ตะวันออกกลาง
ภาพจาก: กระทรวงพาณิชย์