TNN "เงินหมดต้นปี" วิกฤตซ้ำซาก? แก้ได้ด้วย "รู้ก่อนจ่าย-ซองเงิน-ประหยัดฉลาด"

TNN

TNN Exclusive

"เงินหมดต้นปี" วิกฤตซ้ำซาก? แก้ได้ด้วย "รู้ก่อนจ่าย-ซองเงิน-ประหยัดฉลาด"

เงินหมดต้นปี วิกฤตซ้ำซาก? แก้ได้ด้วย รู้ก่อนจ่าย-ซองเงิน-ประหยัดฉลาด

เบื่อไหมกับ "เงินหมดต้นปี"? บทความนี้มีวิธีแก้ปัญหาแบบยั่งยืน ด้วยเทคนิค "รู้ก่อนจ่าย-ซองเงิน-ประหยัดฉลาด" พร้อมสัญญาณอันตรายทางการเงินที่ต้องระวัง!

"เงินหมดต้นปี" วิกฤตซ้ำซากที่แก้ได้


หลายคนคงคุ้นเคยกับความรู้สึกใจหายเมื่อเปิดแอพธนาคารดูยอดเงินหลังผ่านเทศกาลปีใหม่ เพราะนอกจากค่าใช้จ่ายปกติแล้ว ยังมีค่าของขวัญ ค่าเดินทางกลับบ้าน และค่าสังสรรค์ที่ดูเหมือนจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่จริงๆ แล้ว การ "เงินหมดต้นปี" ไม่ใช่เรื่องของโชคชะตา แต่เป็นเรื่องของการวางแผนและการจัดการที่ดีต่างหาก


ก่อนอื่น เราต้องเข้าใจที่มาของปัญหาก่อน เดือนธันวาคมมาพร้อมกับ "โบนัส" ที่หลายคนรอคอย แต่ก็มาพร้อมกับค่าใช้จ่ายมหาศาล ทั้งของขวัญให้ครอบครัว เพื่อน และที่ทำงาน ค่าเดินทางกลับบ้านต่างจังหวัด ปาร์ตี้สังสรรค์ และการช้อปปิ้งในช่วงเซลส์ส่งท้ายปี ยิ่งไม่มีการวางแผนที่ดี ยิ่งทำให้เงินรั่วไหลได้ง่าย


การแก้ปัญหานี้ต้องเริ่มจากการ "รู้ก่อนจ่าย" คือการวางแผนล่วงหน้า จดรายการค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต้องจ่ายในช่วงเดือนธันวาคมถึงมกราคม ตั้งงบสำหรับแต่ละรายการอย่างชัดเจน เช่น กำหนดงบของขวัญต่อชิ้นไม่เกิน 500 บาท และสำคัญที่สุดคือต้องเผื่องบฉุกเฉินไว้อย่างน้อย 20% ของรายได้


เทคนิค "ซองเงิน" เป็นวิธีที่ได้ผลดีในการควบคุมค่าใช้จ่าย โดยแบ่งเงินออกเป็น 4 ส่วนหลัก: เงินจำเป็น (40%) สำหรับค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าอาหาร, เงินเที่ยว (20%) สำหรับปาร์ตี้และท่องเที่ยว, เงินของขวัญ (20%), และเงินออม (20%) ที่ต้องตั้งกฎเหล็กว่าห้ามแตะเด็ดขาด


การ "ประหยัดอย่างฉลาด" ก็เป็นอีกกุญแจสำคัญ เช่น การรวมกลุ่มซื้อของขวัญเพื่อได้ส่วนลดมากขึ้น จัดปาร์ตี้แบบ Potluck ที่ทุกคนนำอาหารมาแชร์กัน ใช้แต้มสะสมหรือคูปองส่วนลด และเลือกเดินทางในช่วง Off-peak ที่ค่าตั๋วถูกกว่า นอกจากนี้ การหารายได้เสริม เช่น ขายของออนไลน์ รับจ้างห่อของขวัญ หรือทำขนมขาย ก็เป็นอีกทางเลือกที่ดี


เทคโนโลยีสมัยใหม่สามารถช่วยในการจัดการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ การใช้แอพบันทึกค่าใช้จ่าย ตั้งการแจ้งเตือนเมื่อใช้เงินเกินงบ และเปิดระบบออโต้เซฟเข้าบัญชีออมทรัพย์ จะช่วยให้เราควบคุมการใช้จ่ายได้ดีขึ้น


สิ่งสำคัญที่ต้องระวังคือสัญญาณอันตรายทางการเงิน เช่น เงินในบัญชีเหลือน้อยกว่าค่าใช้จ่ายประจำหนึ่งเดือน การใช้บัตรเครดิตซื้อของไม่จำเป็น การไม่มีเงินออม หรือการกู้เงินมาใช้ในช่วงเทศกาล หากพบสัญญาณเหล่านี้ ควรรีบปรับพฤติกรรมการใช้จ่ายทันที


ก่อนตัดสินใจใช้เงินทุกครั้ง ควรถามตัวเองว่าสิ่งที่กำลังจะซื้อนั้น "จำเป็น" จริงๆ หรือไม่ มีทางเลือกที่ประหยัดกว่านี้ไหม และถ้าเอาเงินก้อนนี้ไปออมจะดีกว่าหรือเปล่า การตั้งคำถามเหล่านี้จะช่วยให้เราใช้จ่ายอย่างมีสติมากขึ้น


สุดท้ายนี้ การมีเงินเหลือต้นปีไม่ใช่เรื่องของโชค แต่เป็นเรื่องของการวางแผนและวินัยทางการเงิน เริ่มวางแผนตั้งแต่วันนี้ รับรองว่าปีหน้าคุณจะไม่ต้องเครียดกับปัญหาเงินหมดหลังปีใหม่อีกแน่นอน เพราะความสุขที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่การใช้เงินอย่างไม่ยั้ง แต่อยู่ที่การมีความมั่นคงทางการเงินที่ทำให้เราสบายใจในระยะยาว

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง