ย้อน 5 เหตุการณ์ตลอดปี 2567 อุบัติเหตุครั้งใหญ่ สะเทือนขวัญคนไทย
ย้อน 5 เหตุการณ์ตลอดปี 2567 โศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ อุบัติเหตุสะเทือนขวัญคนไทยทั้งประเทศ
ตลอดปี 2567 ที่ผ่านมา เป็นอีกหนึ่งปีที่เกิดเหตุการณ์สุดช็อกและเรื่องราวสุดสะเทือนใจต่อผู้คนในสังคมไทย ทุกเหตุการณ์ล้วนแล้วเป็นสิ่งที่ไม่มีใครต้องการให้เกิดขึ้น
เพราะนอกจากจะเกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินแล้ว ในทุกๆ เหตุการณ์ยังได้สร้างบาดแผลและความทรงจำที่ส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจ ทั้งครอบครัวของผู้สูญเสีย ผู้รอดชีวิต หรือแม้กระทั่งประชาชนที่เสพข้อมูลข่าวสารเหล่านั้น
TNN ONLINE ได้รวบรวม 5 เหตุการณ์โศกนาฏกรรม อุบัติเหตุครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในปี 2567 ไว้ดังนี้
โรงงานพลุระเบิดที่สุพรรณบุรี คนงานเสียชีวิตกว่า 20 ราย
เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2567 เวลาประมาณ 15.30 น. ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่โรงงานผลิตพลุ ในพื้นที่ตำบลศาลาขาว อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี โดยสถานที่ตั้งโรงงานอยู่กลางทุ่งนา ห่างไกลจากเขตชุมชน มีรายงานผู้เสียชีวิต 23 คน และบาดเจ็บอีกจำนวนมาก โดยแรงระเบิดเกิดขึ้นอย่างรุนแรง จนทำให้โครงสร้างของโรงงานกระจัดกระจายออกไปในพื้นที่โดยรอบ
หากย้อนกลับไปเมื่อ 2 ปีก่อน จะพบว่าโรงงานพลุแห่งนี้ เคยเกิดเหตุระเบิดเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 ก่อนจะปิดการผลิตชั่วคราว และกลับมาเปิดอีกครั้ง ก่อนเกิดเหตุระเบิดขึ้นซ้ำ แม้โรงงานแห่งนี้จะมีการขออนุญาตประกอบการผลิตพลุและดอกไม้ไฟอย่างถูกต้อง
ทั้งนี้ ข่าวนี้กลายเป็นอีกหนึ่งข่าวที่อยู่ในความสนใจและสร้างความสะเทือนใจของสังคมที่ความสูญเสียเกิดจากโรงงานผลิตผลุและดอกไม้ไฟ เพราะไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ในสังคมไทย
เผชิญสภาพอากาศแปรปรวนรุนแรง สายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ ลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินสุวรรณภูมิ
อีกหนึ่งข่าวใหญ่ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2567 เวลา 15.35 น. ศูนย์รักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้รับแจ้ง จากหอบังคับการบินว่า สายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ เที่ยวบิน SQ321 เส้นทางจากท่าอากาศยานฮีทโธรว์ ปลายทางท่าอากาศยานชางงี ขอลงจอดฉุกเฉินที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) เนื่องจากมีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บจากเหตุเครื่องบินตกหลุมอากาศ
ต่อมาเวลา 15.51 น. เที่ยวบินดังกล่าวได้ลงจอดที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้ส่งทีมแพทย์เข้าพื้นที่โดยทันทีเพื่อประเมินอาการและให้การช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้ประกาศเข้าแผนฉุกเฉินกรณีเหตุฉุกเฉินในเที่ยวบิน
ทั้งนี้ เที่ยวบินดังกล่าวมีผู้โดยสารจำนวน 211 คน และลูกเรือจำนวน 18 คน จากเหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้เสียชีวิตเป็นชาวต่างชาติจำนวน 1 คน และมีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก
ทั้งนี้ ภายหลังเกิดเหตุการณ์ สิงคโปร์แอร์ไลน์ส ได้ประกาศนโยบาย “งดเสิร์ฟอาหาร” ระหว่างที่ไฟสัญญาณเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยสว่างขึ้น เพื่อเป็นการยกระดับความปลอดภัยแก่ผู้โดยสาร หลังเกิดกรณีเที่ยวบิน SQ321 ตกหลุมอากาศรุนแรง
ไฟไหม้ตลาดสัตว์เลี้ยง จตุจักร สัตว์นับพันตัวสังเวยชีวิต
อีกหนึ่งข่าวสุดสะเทือนใจ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 04.30 น. ของวันที่ 11 มิถุนายน 2567 ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้บริเวณตลาดจตุจักร ถนนกำแพงเพชร 3 แขวงและเขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยที่เกิดเหตุอยู่ที่ตลาดศรีสมรัตน์ ศูนย์รวมสัตว์เลี้ยง ปลาสวยงาม แบ่งเป็นล็อกจำนวน 118 ห้อง มีชั้นลอยสำหรับเก็บของและห้องพักของคนดูแลร้าน พบเพลิงไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็วเต็มพื้นที่ เจ้าหน้าที่ระดมใช้น้ำฉีดเป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ พบเพลิงเผาวอดเสียหายทั้งหมด 118 ห้อง และที่น่าสะเทือนใจคือพบซากสัตว์ในกองพลิงเป็นจำนวนมาก
สำหรับความเสียหาย มีสัตว์เลี้ยงเสียชีวิตคาดว่านับ 1,000 ตัว ประกอบด้วยปลาสวยงาม แมว สุนัข สัตว์แปลกๆ เช่น หงส์ นก ลิง ซึ่งนำเข้าจากต่างประเทศ มูลค่ารวมหลายล้านบาท
การช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ ได้มีการตั้งกองอำนวยการ โดยมีการรถไฟแห่งประเทศไทย, สำนักงานเขตจตุจักร, สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร มาตั้งโต๊ะเพื่อให้ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบมาลงทะเบียน รวบรวมข้อมูลประเมินความเสียหาย และดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาตามหลักเกณฑ์ต่อไป
ไฟไหม้ชุมชนตรอกโพธิ์ เยาวราช ชาวบ้านหนีตายอลหม่าน
6 กรกฎาคม 2567 เมื่อเวลาประมาณ 20.40 น. ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ ภายในชุมชนตรอกโพธิ์ ถนนเยาวราช แขวงและเขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่เกิดเหตุเป็นซอยแคบ มีหัวประปาแดงเพียงหัวเดียว ความยากลำบากในการช่วยเหลือคือรถน้ำไม่สามารถเข้าถึง และพบชาวบ้านกำลังหนีตายอย่างอลหม่าน รวมทั้งมีรายงานว่ามีคนติดในโรงแรมใกล้เคียงชุมชนตรอกโพธิ์ที่กำลังกำลังถูกไฟไหม้ยังไม่ทราบจำนวนที่ชัดเจน
หลังเกิดเหตุผ่านมาเกือบ 1 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงไหม้ชุมชนตรอกโพธิ์ได้ และไฟยังคงลุกลามต่อเนื่อง มีเสียงปะทุดังขึ้นเป็นระยะๆ โดยโครงสร้างบ้านบางหลังเริ่มพังลงมาหลังระดมสรรพกำลังดับไฟกว่า 2 ชั่วโมง ทีมดับเพลิงได้เข้าสำรวจความเสียหายในชุมชนและค้นหาผู้ประสบภัยที่ตกค้าง และคุมไฟไม่ให้ปะทุซ้ำ
ทั้งนี้ สำนักงานเขตสัมพันธวงศ์ ได้สรุปเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ว่า ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ปลูกติดกันหลายหลังเรือน ต้นเพลิงเกิดขึ้นภายในชุมชน เพลิงลุกไหม้เสียหายหมดทั้งชุมชน จำนวน 37 ครัวเรือน บ้านจำนวน 66 หลังคาเรือน ลุกลาม โรงแรมนิวเอ็มไพร์ เลขที่ 572 เสียหายที่ชั้น 4 , 5 และชั้นที่ 6 ลุกลามร้านหูฉลามเฉลิมบุรี เลขที่ 540 เสียหายชั้นที่ 4 , 5 และลุกลามภัตตาคาร ไต่เซ็ง เสียหายชั้นที่ 4 , 5 พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 1 ไร่ 80 ตารางวา รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้ ไม่สามารถตรวจสอบได้เนื่องจากเพลิงลุกไหม้เสียหายทั้งหมด
โศกนาฏกรรมสะเทือนใจ ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา ครู-นักเรียน เสียชีวิต 23 ราย
และโศกนาฏกรรมที่สร้างความโศกเศร้าที่ใครก็ตามต่างไม่อยากให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น โดยเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 รถบัสทัศนศึกษาจากโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี เดินทางไปวัดพระศรีสรรเพชญ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และเข้ามาดูนิทรรศการที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จังหวัดนนทบุรี แต่เกิดเพลิงลุกไหม้ระหว่างเดินทางกลับ บริเวณหน้าอนุสรณ์สถาน ถนนวิภาวดีรังสิต ตรงข้ามซอยพหลโยธิน 72 จังหวัดปทุมธานี
ทั้งนี้ รถคันดังกล่าวมีเด็กนักเรียนและครูเดินทางมาทั้งหมด 45 คน เป็นครู 6 คน นักเรียน 39 คน ขณะเกิดเพลิงไหม้ สามารถออกจากรถได้ 19 คน มีผู้เสียชีวิตประกอบด้วยคุณครู 3 ราย เเละนักเรียน 20 ราย
จากข้อมูลพบว่า รถบัสคันนี้มากับขบวนทัศนศึกษาโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม มากัน 3 คัน โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงเที่ยง ระหว่างทางมุ่งหน้าถนนวิภาวดีรังสิต ฝั่งขาเข้า ซึ่งจุดนี้เป็นทางโค้งยาวๆ จากภาพวงจรปิดจะเห็นไกลๆ ในขณะที่ขบวนรถบัสวิ่งมาถึงจุดนี้ คันเกิดเหตุอยู่ในขบวนคันที่ 2 เสียการควบคุมไปชนกับรถเบนซ์ที่ขับตามมา จนไปเบียดกับขอบเเบริเออร์เกาะกลาง
ครูที่เห็นเหตุการณ์ บอกว่า รถมีอาการเสียการควบคุม คล้ายยางเเตก ก่อนจะถลาไปชนกับรถเบนซ์ในเลนขวาสุด หลังจากไฟเริ่มไหม้ ประตูหน้าเปิดออก ครูพาเด็กส่วนหน้าลงมาได้ เเต่ประตูส่วนท้ายเเละประตูฉุกเฉินกลับเปิดไม่ได้ ทำให้เด็กๆ บางส่วน ตัดสินใจกระโดดหนีตายผ่านช่องหน้าต่าง
อุบัติเหตุครั้งนี้ นับเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ เป็นสิ่งที่กระทบกระเทือนต่อจิตใจของผู้ประสบเหตุและครอบครัวอย่างมาก รวมทั้งสร้างความโศกเศร้าต่อสังคมไทยที่สูญเสียทรัพยากรสำคัญที่สุดของชาติคือนักเรียนและครู
ขณะเดียวกันหลายโรงเรียนเริ่มวิตกกังวลว่าควรจะพาเด็กไปทัศนศึกษาหรือไม่ แม้ว่าปัญหาของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้อยู่ที่การทัศนศึกษา แต่เป็นเรื่องของคุณภาพความปลอดภัยที่เกี่ยวข้อง ที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีกในอนาคต
ภาพจาก AFP
ข่าวแนะนำ