TNN สภาพอากาศผันผวน! เหนือหนาวจัด-ใต้ฝนกระหน่ำ

TNN

TNN Exclusive

สภาพอากาศผันผวน! เหนือหนาวจัด-ใต้ฝนกระหน่ำ

สภาพอากาศผันผวน! เหนือหนาวจัด-ใต้ฝนกระหน่ำ

ทั่วไทยผวา! อากาศแปรปรวนหนัก เหนือ-อีสาน หนาวจัด ใต้ฝนตกหนัก เตือนภัย! ทุกภาคส่วนเตรียมรับมือ Climate Change

สภาพอากาศที่แปรปรวนในประเทศไทย ณ วันที่ 2 ธันวาคม 2567 สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของรูปแบบภูมิอากาศที่ส่งผลกระทบในวงกว้าง โดยเฉพาะในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่เผชิญกับอากาศหนาวเย็นผิดปกติ ขณะที่ภาคใต้ยังคงมีฝนตกหนักต่อเนื่อง สถานการณ์นี้ก่อให้เกิดความท้าทายทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และการดำรงชีวิตของประชาชน


ภาคเหนือกำลังเผชิญกับสภาวะอากาศหนาวเย็นที่รุนแรงกว่าปกติ โดยเฉพาะในพื้นที่สูงอย่างดอยอินทนนท์และดอยสุเทพที่อุณหภูมิลดต่ำถึง 7-15 องศาเซลเซียส ปรากฏการณ์นี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคการเกษตรและการท่องเที่ยว เกษตรกรต้องเร่งปรับตัวและหามาตรการป้องกันความเสียหายของพืชผล ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวต้องเตรียมความพร้อมรับมือกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นในช่วงอากาศหนาว


ภาคตะวันออกเฉียงเหนือประสบกับสภาวะแห้งแล้งและหนาวเย็น อุณหภูมิที่ลดต่ำลงถึง 16-22 องศาเซลเซียสในพื้นราบ และ 10-16 องศาเซลเซียสบนยอดภู ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงต่อผลผลิตทางการเกษตรและสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง การปรับตัวของภาคการเกษตรในพื้นที่จึงเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องได้รับการดูแลอย่างเร่งด่วน


ภาคกลางและภาคตะวันออกแสดงให้เห็นถึงความไม่แน่นอนของสภาพอากาศ โดยมีทั้งช่วงที่อากาศเย็นสบายและมีฝนตกเล็กน้อย อุณหภูมิที่ผันผวนระหว่าง 19-35 องศาเซลเซียส ส่งผลต่อการวางแผนกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชน โดยเฉพาะในภาคการขนส่งและโลจิสติกส์ที่ต้องเผชิญกับความท้าทายจากสภาพอากาศที่แปรปรวน


กรุงเทพมหานครและปริมณฑลกำลังเผชิญกับความท้าทายด้านมลพิษทางอากาศ แม้จะมีอุณหภูมิที่เย็นสบายระหว่าง 22-35 องศาเซลเซียส แต่หมอกควันที่ปกคลุมในตอนเช้าส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนและการคมนาคม การแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศจึงเป็นประเด็นเร่งด่วนที่ต้องได้รับการจัดการอย่างเป็นระบบ


สถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือภาคใต้ที่กำลังเผชิญกับฝนตกหนักและคลื่นลมแรง โดยเฉพาะในจังหวัดชายฝั่งตะวันออก เช่น นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา ที่มีฝนตกถึงร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ สภาวะนี้ส่งผลกระทบรุนแรงต่อการประมง การท่องเที่ยว และความปลอดภัยของประชาชน


การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้นนี้ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนในวงกว้าง การเตรียมความพร้อมและการปรับตัวจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกภาคส่วน ทั้งในระดับนโยบายและระดับปฏิบัติการ


สิ่งที่ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนคือการพัฒนาระบบเตือนภัยที่แม่นยำ การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานให้รองรับสภาพอากาศรุนแรง และการสร้างความตระหนักรู้ให้กับประชาชน เพื่อให้สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่อาจทวีความรุนแรงขึ้นในอนาคต


ท้ายที่สุด สถานการณ์สภาพอากาศในวันที่ 2 ธันวาคม 2567 ไม่เพียงเป็นภาพสะท้อนของความท้าทายในปัจจุบัน แต่ยังเป็นสัญญาณเตือนถึงความจำเป็นในการเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในระยะยาว ที่อาจส่งผลกระทบต่อประเทศไทยในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม 


ภาพ Freepik 

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง