TNN นิรโทษกรรม กับ 3 แนวทาง 3 ขั้วความคิด

TNN

TNN Exclusive

นิรโทษกรรม กับ 3 แนวทาง 3 ขั้วความคิด

นิรโทษกรรม กับ 3 แนวทาง 3 ขั้วความคิด

บทความนี้เจาะลึกประเด็นร้อนแรงเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมในไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อถกเถียงเรื่องการรวมความผิดตามมาตรา 112 และ 110 อ่านต่อเพื่อทำความเข้าใจความเห็นที่แตกต่าง ข้อกังวล และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสังคมไทย

ร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมที่ได้มีการเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ได้ก่อให้เกิดความเห็นที่แตกต่างอย่างมากมายในสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นการรวมเอาความผิดตามมาตรา 112 และมาตรา 110 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งเป็นความผิดเกี่ยวกับการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพหรือการดูหมิ่น เหยียดหยาม หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เข้าไว้ในกฎหมายฉบับนี้ด้วยหรือไม่


ความเห็นที่แตกต่างในการรวมความผิดมาตรา 112 และ 110 ไว้ในกฎหมายนิรโทษกรรม


จากการประชุมของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ปรากฏว่ามีความเห็นแตกต่างกันเกี่ยวกับการนำความผิดตาม ม.112 และ ม.110 มารวมไว้ในกฎหมายฉบับนี้ โดยแบ่งเป็น 3 แนวทางหลักๆ คือ

1. ไม่เห็นด้วยที่จะรวมความผิดทั้งสองมาตราไว้ในการนิรโทษกรรม 

2. รวมความผิดทั้งสองมาตราในการนิรโทษกรรม แต่มีเงื่อนไขเป็นพิเศษ

3. รวมความผิดทั้งสองมาตราในการนิรโทษกรรมโดยไม่มีเงื่อนไข


โดยคณะกรรมาธิการยังไม่ได้ข้อสรุปในเรื่องนี้ และจะกลับมาพิจารณากันต่อในสัปดาห์หน้า


ข้อกังวลถึงผลกระทบหากรวมความผิดมาตรา 112 และ 110 ในกฎหมายนิรโทษกรรม


นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาให้ความเห็นในฐานะนักกฎหมายว่า การรวมเอาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ 110 เข้าไว้ในกฎหมายนิรโทษกรรมนั้นอาจทำให้เกิดปัญหาได้ เพราะความผิดทั้งสองมาตรานี้มีลักษณะที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นสถาบันหลักที่สำคัญยิ่งของประเทศ และได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญไว้อย่างชัดเจน  


หากให้มีการนิรโทษกรรมความผิดเหล่านี้ จะทำให้เสมือนเป็นการส่งเสริมให้มีการกระทำผิดต่อพระมหากษัตริย์และกัดเซาะสถาบันหลักของชาติ ซึ่งตามรัฐธรรมนูญถือว่าเป็นสิ่งที่มิอาจทำได้ ไม่ว่าจะมีมูลเหตุจูงใจใดๆ 


หากนำความผิดมาตรา 112 และ 110 มาบัญญัติในกฎหมายนิรโทษกรรม ก็อาจทำให้กฎหมายทั้งฉบับขัดรัฐธรรมนูญ ส่งผลให้เจตนาดีในการนิรโทษกรรมให้ประชาชนที่มาร่วมชุมนุมต้องตกไปด้วย และอาจทำให้ความขัดแย้งที่มีอยู่ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น แทนที่จะคลี่คลายลง


เสียงจากประชาชนผ่านการโหวต


ในกระบวนการของการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนต่อร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมผ่านเว็บไซต์ของรัฐสภา ได้มีการเปิดให้ประชาชนโหวตแสดงความเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยต่อร่างกฎหมายดังกล่าว ซึ่งรวมถึงในประเด็นการนิรโทษกรรมความผิดตามมาตรา 112 ด้วย ผลปรากฏว่ามีประชาชนจำนวนมากถึง 64.66% โหวตไม่เห็นด้วย ขณะที่เห็นด้วยมีเพียง 35.34% จากจำนวนผู้โหวตทั้งหมด 90,503 คน


แม้จะมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความผิดปกติในการโหวต แต่ก็สะท้อนถึงความเห็นส่วนใหญ่ของประชาชนที่ไม่เห็นด้วยหากนำความผิดตามมาตรา 112 มารวมไว้ในกฎหมายนิรโทษกรรม


แนวทางในการตรากฎหมายนิรโทษกรรมเพื่อลดปมความขัดแย้ง และช่วยเหลือผู้ที่มาร่วมชุมนุมที่มิได้มีเจตนาร้ายต่อประเทศชาติ ถือเป็นความพยายามที่ดีเพื่อสร้างความปรองดองและเยียวยาสังคม อย่างไรก็ตาม การนำเอาความผิดอันเกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์มารวมไว้ในกฎหมายฉบับนี้ด้วย อาจสร้างผลกระทบและความขัดแย้งที่เลวร้ายมากกว่าเดิม ทั้งในแง่ของการขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญ และในใจของประชาชนจำนวนมากที่ไม่เห็นด้วย นักการเมืองและผู้เกี่ยวข้องจึงควรพิจารณาถึงประเด็นนี้อย่างละเอียดรอบคอบ เพื่อให้กฎหมายนี้บรรลุผลเพื่อการปรองดองอย่างแท้จริงโดยไม่สร้างรอยร้าวในสังคมมากไปกว่าเดิม

ข่าวแนะนำ