TNN ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท: ความหวังกระตุ้นเศรษฐกิจ?

TNN

TNN Exclusive

ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท: ความหวังกระตุ้นเศรษฐกิจ?

ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท: ความหวังกระตุ้นเศรษฐกิจ?

นายกฯ ประกาศเดินหน้าโครงการ "ดิจิทัลวอลเล็ต" หนุนเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ



นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ให้ไฟเขียวเดินหน้าโครงการ "ดิจิทัลวอลเล็ต" ซึ่งเป็นโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ให้แก่ประชาชน ผ่านแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" โดยจะเริ่มเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 เป็นต้นไป 


เพิ่มเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ

รัฐบาลมุ่งหวังให้โครงการนี้ช่วยเพิ่มเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ โดยนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง มั่นใจว่าเงินที่เติมให้กับประชาชนจะกลับเข้าหมุนเวียนในระบบ ทำให้เกิดการบริโภคและจับจ่ายใช้สอยของประชาชนเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจโดยรวม


คุณสมบัติผู้ที่จะได้รับสิทธิ์

ประชาชนที่จะมีสิทธิ์ได้รับเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต จะต้องมีอายุ 16 ปีขึ้นไป มีสัญชาติไทย มีเงินได้ไม่เกิน 840,000 บาทต่อปี และมีเงินฝากในธนาคารรวมกันไม่เกิน 500,000 บาท ในขณะที่ผู้ที่เคยทำผิดเงื่อนไขโครงการรัฐ ที่ถูกฟ้องร้องเรียกเงินคืนในอดีต จะถูกตัดสิทธิ์ออก


วิธีการลงทะเบียน

ประชาชนจะต้องลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่น "ทางรัฐ" ของหน่วยงานภาครัฐ โดยกรอกข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ-นามสกุล เลขบัตรประจำตัวประชาชน ที่อยู่ เพื่อใช้ในการตรวจสอบและยืนยันตัวตน เมื่อได้รับการอนุมัติแล้ว ประชาชนสามารถใช้แอปฯ ในการชำระเงินซื้อสินค้าจากร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการได้


ร้านค้าที่จะร่วมโครงการ

ร้านค้าที่จะเข้าร่วมโครงการ จะต้องอยู่ในระบบภาษี และต้องผูกเบอร์โทรศัพท์แบบรายเดือนกับระบบของโครงการด้วย เพื่อใช้ในการติดตามตัวหากมีปัญหาใดๆ เกิดขึ้น และป้องกันการนำเงินลงทุนของรัฐไปใช้ในทางที่ผิด


สินค้าที่จะซื้อได้ด้วยเงินดิจิทัล

รัฐบาลระบุว่าประชาชนสามารถซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค อาหาร เครื่องดื่ม ของใช้ในบ้าน สินค้าเพื่อการศึกษา ปัจจัยการผลิตทางการเกษตร ยารักษาโรค และของไหว้บูชา ด้วยเงิน 10,000 บาท ในโครงการนี้ได้ แต่ห้ามซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และอุปกรณ์สื่อสาร


งบประมาณใช้จ่าย

นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่ารัฐบาลสามารถใช้งบกลางฉุกเฉินประมาณ 43,000 ล้านบาท จากงบกลาง 99,600 ล้านบาทในปี 2567 มาใช้ในโครงการนี้ได้ โดยผ่านการหารือกับสำนักงานงบประมาณและคณะกรรมการกฤษฎีกาว่าสามารถกระทำได้ตามกฎหมาย พร้อมกันนั้นยังกันงบฉุกเฉินอีก 15,000 ล้านบาท สำหรับเตรียมรับมือภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นด้วย


มุมมองแบงก์ชาติ

สำหรับธนาคารแห่งประเทศไทยที่เข้าร่วมการประชุม ได้ให้ความเห็นว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตจะต้องเน้นความปลอดภัยและมั่นคงของระบบเป็นสำคัญ จึงต้องให้แบงก์ชาติเข้ามาตรวจสอบระบบให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด ให้มีความปลอดภัยสูงสุด โดยยังไม่มีการระบุว่าจะเป็นธนาคารใดที่จะเป็นผู้พัฒนาระบบ


เชื่อมั่นทำให้ GDP เติบโต

รัฐบาลเชื่อมั่นว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต จะช่วยกระตุ้นให้ GDP เติบโตได้ถึง 3% ตามเป้าหมาย โดยอาศัยแรงขับเคลื่อนจากหลายนโยบายผสานกัน ทั้งการกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชน การเร่งลงทุนจากภาครัฐ การกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว รวมไปถึงการปราบปรามอาชญากรรม เช่น ยาเสพติด คอลเซ็นเตอร์ และเว็บพนันออนไลน์


โดยรวมแล้ว โครงการดิจิทัลวอลเล็ตเป็นความหวังใหม่ของรัฐบาลในการหนุนเศรษฐกิจไทยให้ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ด้วยการใช้เม็ดเงินจากภาครัฐมากระตุ้นการบริโภคภาคเอกชน ผ่านการเติมเงินให้ประชาชนใช้ในแพลตฟอร์ม "ทางรัฐ" ซึ่งมีทั้งสินค้าและร้านค้าในระบบ ที่จะช่วยให้เม็ดเงินไหลเวียนในระบบเศรษฐกิจอย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่ต้องติดตามกันว่าเมื่อถึงวันที่ 1 สิงหาคม 2567 กระบวนการทั้งหมดจะลื่นไหลและโปร่งใสเพียงใด เพื่อไม่ให้กลายเป็นโครงการรั่วไหลที่สิ้นเปลืองงบฯ โดยไม่เกิดผลดีต่อประเทศชาติดังที่คาดหวังไว้




ภาพ TNN 

ข่าวแนะนำ