เปิดรายงานกนง. หั่นดอกเบี้ยพยุงเศรษฐกิจ

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยรายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เมื่อวันที่ 26 ก.พ. 2568 ซึ่งคณะกรรมการฯ มีมติ 6 ต่อ 1 เสียง ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงร้อยละ 0.25 จากระดับร้อยละ 2.25 เป็นร้อยละ 2.00 โดยมีผลทันที


โดยในรายงานฯระบุว่า ฝ่ายเลขานุการ กนง. นำเสนอภาพเศรษฐกิจไทยในปี 2567 ว่าขยายตัวต่ำกว่าที่คาดไว้แม้อุปสงค์ในประเทศการท่องเที่ยว และการส่งออกสินค้ายังขยายตัวดีแต่ไม่ได้ส่งผลบวกต่อภาคการผลิตมากนัก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีการระบายสินค้าคงคลังที่อยู่ในระดับสูงและนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้น 


สรุปข่าว

เปิดรายงาน กนง. แจงหั่นดอกเบี้ย ห่วงเศรษฐกิจไทยโตต่ำกว่ามาก เหตุมีความเสี่ยงด้านลบเพิ่มขึ้น คาดสงครามการค้าอาจจะฉุดเศรษฐกิจไทยลดลงอย่างน้อยร้อยละ 0.3-0.5

ดังนั้นมองไปข้างหน้า เศรษฐกิจไทยในปี 2568 มีแนวโน้มขยายตัวสูงกว่าร้อยละ 2.5 เล็กน้อย ซึ่งต่ำกว่าที่เคยประเมินไว้จากภาคการผลิตที่ยังถูกกดดันจากปัญหาเชิงโครงสร้างและการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น รวมถึงผลกระทบจานโยบายการค้าของสหรัฐฯ ที่บังคับใช้แล้ว


ขณะที่กรรมการบางท่านเห็นว่าเศรษฐกิจอาจมีความเสี่ยงมากกว่าที่ฝ่ายเลขานุการฯ ประเมินไว้ โดยอุตสาหกรรมยานยนต์และภาคอสังหาริมทรัพย์อาจต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งก่อนจะเริ่มกลับมาฟื้นตัว


อย่างไรก็ดี กรรมการส่วนใหญ่เห็นว่าการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งนี้เป็นทางเลือกที่เหมาะสม สอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจที่ขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้และมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น และจะช่วยลดทอนความตึงตัวของภาวะการเงิน โดยไม่ได้สร้างต้นทุนความเสี่ยงต่อเสถียรภาพระบบการเงินในระยะยาวมากนัก และเป็นระดับที่สามารถรองรับความไม่แน่นอนข้างหน้าได้ระดับหนึ่ง

โดยเมื่อมองไปข้างหน้า คณะกรรมฯ เห็นว่าเศรษฐกิจไทยมีความเสี่ยงจากนโยบายการค้าของประเทศเศรษฐกิจหลัก โดยอาจได้รับผลกระทบจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ที่จะออกมาเพิ่มเติม ซึ่งยังมีความไม่แน่นอนสูงทั้งในมิติรูปแบบและช่วงเวลา รวมทั้งการตอบโต้ของประเทศเศรษฐกิจหลักอื่น 


โดยฉากทัศน์ที่สหรัฐฯ เก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มขึ้นรวมเป็นร้อยละ 30 และประเทศกลุ่มเสี่ยงรวมถึงไทยถูกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าร้อยละ 10 การขยายตัวของเศรษฐกิจอาจปรับลดลงจากกรณีฐานประมาณร้อยละ 0.3-0.5 โดยประเมินว่าจะได้รับผลกระทบในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 ผ่านช่องทาง (1) การส่งออกสินค้าของไทยไปสหรัฐฯ โดยตรงลดลง (2) การส่งออกสินค้าขั้นกลางของไทยไปจีนลดลง และ (3) ปัญหาการแข่งขันกับอุปทานส่วนเกินของจีนทั้งในตลาดส่งออกและตลาดในประเทศที่รุนแรงขึ้น 


อย่างไรก็ดี การประเมินผลในฉากทัศน์นี้ยังมีความไม่แน่นอนสูง และผลกระทบอาจรุนแรงขึ้นหากมีมาตรการตอบโต้ทางการค้าเพิ่มเติม  ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ จะติดตามพัฒนาการแนวโน้มเศรษฐกิจการเงินอย่าง ใกล้ชิด โดยเฉพาะนโยบายการค้าของประเทศเศรษฐกิจหลักที่จะส่งผลต่อเศรษฐกิจไทย 


ทั้งนี้ การประชุม กนง.ครั้งก่อนหน้า (18 ธ.ค.67) ประเมินการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปี  2568 ไว้ที่ร้อยละ 2.9  และกนง.จะประชุมครั้งต่อไปเพื่อทบทวนประมาณการเศรษฐกิจใหม่ในวันที่ 30 เมษายน 2568

 




ที่มาข้อมูล : ธปท.

ที่มารูปภาพ : TNN